หน้าเว็บ

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[EGoT][Devine][Side] Midnight break

เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
 
 
*export from x
---------------------------------------------------------------
 
 
Devine, the warrior of the north
 
[side]
 
Midnight break
 
 
---------------------------------------------------------------
 
 
Guest
 
 
 
---------------------------------------------------------------
 
 
 




ห้อง หับในเมืองเหมันต์แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากปราการสีเทาของวินเทอร์เฟล  เนื่องด้วยความอบอุ่นทั้งหลายไม่ได้กระจายอยู่ตามกำแพง  หากแต่มีที่มาจากเตาผิงเล็กๆที่ปะทุไฟสีส้มแดง  ไม่แปลกเลยที่เหล้ารัมจะเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย  และหอนางโลมสร้างรายได้ไม่สิ้นสุดให้กับใครก็ตามที่เป็นเจ้าของมัน

“ข้านึกว่าจะถูกหลงลืมไปเสียแล้ว” 

น้ำเสียงหวานแสร้งตัดพ้อดังมาจากร่างของสาวงามภายใต้เส้นผมลอนยาวสยาย  รอยยิ้มบางๆถูกส่งมาให้อย่างที่เขาเห็นมาตลอดห้าปี 

ดี ไวน์เคยได้ยิน...และเห็นจริตที่ต่างไปของนางเมื่ออยู่กับลูกค้าคนอื่น   ซานย่ารู้ดีเสมอว่าควรจะวางตัวแบบใดกับใคร   และนอกจากความสามารถในเรื่องนั้น เสื้อผ้าบางเบาก็ทำให้เขาสรุปว่าหญิงสาวมีความสามารถในการทนอากาศหนาวได้ มากกว่ามนุษย์ทุกคนในเมืองเหมันต์

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง....เมื่อมันต้องถูกปลดออกจนหมดสิ้นในไม่ช้า

“มี เรื่องมากมายเกิดขึ้น”  เขาเอ่ยเรียบๆ  วางแก้วที่เหลือเหล้ารัมเพียงเล็กน้อยลงบนโต๊ะข้างเตียง  ขณะที่หญิงสาวเคลื่อนไหวมืออย่างแคล่งคล่องงดงามเพื่อจุดเครื่องหอมห่างไป ไม่ไกล

“ข้าก็ได้ยินมาเช่นนั้นเหมือนกัน”  ซานย่ายังคงแต่งแต้มใบหน้าด้วยรอยยิ้มจาง เธอก้มลง...สูดลมหายใจเข้าแล้วผ่อนออกช้าๆ  สายลมเบาพัดส่งให้กลิ่นหอมนั้นกระจายไปในอากาศของห้องคับแคบ  แสงไฟเต้นระริกอยู่ใกล้ใบหน้า  ขับให้ผิวสีขาวละเอียดงดงามยิ่งแลดูลึกลับ ซึ่งรวมความทั้งคำว่า ‘น่าค้นหา’ ‘เย้ายวน’ และ ‘อันตราย’ 

“เรามักจะได้ยินข่าวอะไรมากมายในที่แบบนี้....จริงไหม?”   นางยกมือขึ้นป้องปาก น้ำเสียงนั้นติดจะขบขัน   

ดีไวน์เงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย  ไม่ได้ตอบคำ  เมื่ออยู่กับคนตรงหน้า...ความเงียบเป็นทางเลือกของเขาได้เสมอหากต้องการ

"ว้า" 
 
ซานย่าส่งเสียงเบาๆโดย ไม่เปลี่ยนสีหน้า  หรืออย่างน้อยดีไวน์ก็ไม่เห็นว่านางทำเช่นนั้น  อันที่จริงชายหนุ่มเชื่อว่านางไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำตอบของเขานัก  ร่างบอบบางเพียงจัดถ้วยกำยานให้แน่ใจว่าอยู่ในที่ของมัน แล้วจึงขยับตัวอย่างเชื่องช้าละจากโต๊ะที่กลางห้อง นางทรุดตัวลงนั่งบนเตียงห่างจากเขาเพียงหนึ่งช่วงแขน  ขาทั้งสองไขว้กันเผยให้เห็นต้นขาเนียนขณะเอ่ยปากถามคำถามอื่นต่อ

“ข้าได้ยินมาว่าเราจะขาดแคลนลูกพรุนไปอีกอย่างน้อยสามปี?” 

ดีไวน์ขมวดคิ้วเล็กน้อย  รู้ความหมายที่อีกฝ่ายพยายามสื่ออย่างไม่ยากเย็นอะไร

ผล พลัมเป็นความภาคภูมิใจของลอร์ดอุมเบอร์  และจากที่เขารู้...ดูเหมือนไร่ในส่วนนั้นของลอร์ดแห่งลาสเฮิร์ธจะถูกเผาเสีย หายไปมากเมื่อสัปดาห์ก่อน

“ข้าคิดว่าเราอาจจะพอหามันได้อีกบ้างจาก ที่อื่น”  เขาเอ่ยตอบ  รู้ดีว่ามันเป็นการยืนยัน  ใบหน้าผู้เป็นนักรบยังคงเรียบเฉยต่างกับน้ำเสียงที่ดูเคร่งเครียดขึ้นเล็ก น้อย  “นั่นเป็นเรื่องที่เจ้ากำลังสนใจเหรอซานย่า?”

“ข้าแค่อยากจะ รู้ถ้าจะไม่ได้กินมันไปอีกนานพอสมควร”   นางเอียงคอน้อยๆอย่างมีจริต  ท่าทางสบายๆราวกับไม่เห็นเป็นเรื่องสลักสำคัญ  ทว่าดวงตายังฉายแววใคร่รู้   “เป็นฝีมือคนเถื่อนที่ท่านลอร์ดได้ตัวไว้หรือเปล่า?”

ดีไวน์จ้องตอบอีกฝ่าย...พยายามค้นหาสิ่งอื่นภายในนั้น   หากแต่เพียงไม่นานก็ถอนหายใจเบาๆ

เมสเตอร์ลูเธอร์ทำเรื่องนี้ได้ดีกว่าเขา

“เห็นได้ชัดว่าเรามีข่าวมากมายที่นี่จริง”

นางโลมเลื่องชื่อยิ้มอย่างขบขัน  ไม่ซักไซ้อะไรเพิ่มเติม 

ดี ไวน์ไม่มีคำพูดใด  และซานย่าก็ตอบด้วยความเงียบ  ทว่ามันไม่ได้ทิ้งตัวระหว่างพวกเขานาน  เพราะหญิงสาวใช้เวลาแค่เล็กน้อยเพื่อล้วงเข้าไปในซอกหลืบของผืนผ้าบางเบาที่ ปกคลุมตนเองและดึงสิ่งหนึ่งออกมา

“รางวัลที่ช่วยตอบคำถามก่อนหน้า  ข้ามีของขวัญจะให้”

กระดาษ สีเหลืองอ่อน...หรืออาจจะขาว...ดีไวน์ไม่แน่ใจนักเพราะมันถูกอาบไล้ด้วยแสง ไฟอยู่ในมือของหญิงสาว   เขามองมันสลับกับใบหน้าหวานที่เอ่ยถ้อยคำเป็นเชิงอธิบายเพิ่มเติม

“จากสหายที่แวะมาและจากไปแล้ว” 

เขารับแผ่นกระดาษนั้นมาจากนาง  มันถูกพับอย่างง่ายๆเพียงสองทบ  ไม่ได้อยู่ในซองปิดผนึก  ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะบรรจุความลับใดๆ

นักรบแห่งวินเทอร์เฟลนิ่งอยู่ราวกับกำลังชั่งใจ...

ไหล่บางไหวขึ้นลงพร้อมเสียงหัวเราะน้อยๆ  มือเล็กๆหยอกล้อกับปลายผมที่ต้นคอของชายหนุ่มเล่นเช่นเดียวกับที่เคยทำตั้งแต่แรกพบ 

“ถ้าจะทำให้เจ้าตัดสินใจง่ายขึ้น  ข้าอ่านมันไปแล้วล่ะ”

สิ้น คำนั้นชายหนุ่มจึงได้จัดการคลี่มันออก  แสงไฟในห้องมืดสลัว  แม้กระนั้นก็ยังเพียงพอให้เขาอ่านตัวอักษรที่รวมกันเป็นประโยคสั้นๆ  กับลายมือที่เห็นครั้งใดก็ต้องบอกกับตนเอง...  ว่ามันสวยงามเสียจนไม่เหมาะกับผู้เป็นเจ้าของแม้แต่น้อย

‘ข้าจะลองหาดู’  

ดี ไวน์หวนคิดถึงใบหน้ายียวนของสหายตน  ยามที่เขาคุยกับอีกฝ่ายเมื่อเกือบสองเดือนก่อน   ดวงตาสีม่วงไหวระริกขณะรับฟังพร้อมกับเครื่องดื่มแก้วโต  ทว่าจนแล้วจนรอดเจ้านั่นก็ไม่ยอมรับปากในเรื่องที่เขาขอให้ทำ

นิสัยเสียแก้ไม่หาย…แต่เฮสท์ก็ยังเป็นเช่นเดิม...และดีไวน์เชื่อในสิ่งนั้นเสมอมา

“เขาบอกให้ข้ารอให้ผ่านเวลาไปสักนานๆหน่อย  หรือเมื่อไหร่ก็ตามที่คิดว่าเจ้าสมควรได้รับมัน” 

“ข้าคงต้องขอบคุณ....ซานย่า....ที่เจ้าไม่เห็นว่ามันควรเป็นหลังจากนี้ไปนานนัก” 

ดี ไวน์เก็บกระดาษในกระเป๋าเสื้อคลุมพร้อมค่อมหัวลงเล็กน้อยเพื่อย้ำคำขอบใจของ ตน  อย่างไรก็ตามหญิงสาวดูเหมือนจะไม่ได้สนใจในเรื่องนั้น   ร่างบอบบางเคลื่อนเข้ามาอ้อยอิ่งอยู่เบื้องหน้า  สัมผัสจากอีกฝ่ายแผ่วเบาทว่าช่ำชอง  นำความนุ่มนวลและกลิ่นหอมหวานของเรือนกายกระตุ้นประสาทสัมผัสของเขา

กลิ่น หอมที่เคยคุ้น  ซึ่งแม้จะยิ้มด้วยแววตากึ่งขบขัน  แต่หล่อนก็ยอมใส่ทั้งน้ำหอมและจุดกำยานชนิดเดียวซ้ำซากไม่เคยเบื่อมาตลอดสาม ปี...
 

“ทีนี้.....” ปลายนิ้วเรียวไล้ตามใบหน้าลากมายังลำคอ  พร้อมเสียงกระซิบที่ราวกับจุมพิต 

“มาทำเรื่องที่ทำให้เจ้ามาหาข้า”
 
 
แสงไฟลามเลียผิวสีขาว ที่เผยออกโดยไร้อาภรณ์บดบัง  กลืนกินร่างสองร่างที่ทิ้งตัวลงบนผืนผ้า...ซึ่งไม่อาจใช้เพื่อคลายความหนาว ของแดนเหนือยามค่ำคืน

และบทสนทนาทั้งหลายก็ถูกริมฝีปากที่บดเบียดดูดกลืนหายไป..........
 
 
 
 
---------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น