หน้าเว็บ

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[EBF][Lehm] Dream

เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ









----------------------------------------------------------------------------------


From Main event :  Nightmare night





Lehm Leisel
#3136










3




2




1






เลห์มได้ยินเสียงของป่า

เขาลืมตา….คิดว่าลืมตาขึ้น….หลังจากผ่านขั้นตอนตอบรับเริ่มแรกของระบบที่เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก  เลห์ม ไลเซลก็จงใจกรอกชื่อตัวเองด้วยภาษาเอชลิค...อย่างที่เขาเรียนรู้มาจากอัลคอร์...ตามที่โปรแกรม DCS บอกให้ทำแล้วเลือกยืนยันตัว  จากนั้นเขาก็มานอนอยู่ตรงนี้  ท่ามกลางทิวทัศน์ยามโพล้เพล้ซึ่งเป็นสถานที่บรรจบกันของป่ารกครึ้มและทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา  

เลห์มถัดตัวลุกขึ้นยืน  รองเท้าคอมแบทคู่เก่าเหยียบใบหญ้าสีเขียวที่รองรับตัวเขาไว้เมื่อครู่  ขณะเดียวกับที่สายตากลอกมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง  ไม่มีอะไร...นอกจากตัวเขาเองที่ยืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้    และเสียงนกที่แว่วเข้าหูเป็นพักๆจากป่าที่ห่างออกไปไม่ไกล

เขาขยับมือไปที่เข็มขัดข้างตัว  สัมผัสเยียบเย็นของปืนพกตอบรับเขาอย่างคุ้นเคยเหมือนกับทุกที   ถัดไปไม่ไกลคือมีดพกที่ไม่เคยห่างตัว ห้อยสงบนิ่งอยู่ในซองประจำที่เดิมของมัน  ซึ่งทำให้พอจะรู้สึกอุ่นใจ

หากนี่เป็นความฝัน….
ความจริงหรือภาพลวง…..นานวันเข้าก็ชักแยกจากกันได้ยากขึ้นทุกที

เลห์ม ไลเซลผละจากความคิดไร้สาระในหัวของตนเอง ก้าวเดินจากจุดที่ยืนอยู่ แม้คำอธิบายก่อนหน้าภารกิจจะเข้าใจยาก แต่เป้าหมายที่ทำให้เขาต้องมายืนอยู่ตรงนี้ก็ชัดเจนดี ตามหาไนท์แมร์ ฆ่า แล้วนำของที่มันอาจจะมีกลับไป เป็นคำสั่งให้ปฏิบัติตามที่ง่ายต่อความเข้าใจของทหารที่ต้องลงมือกระทำ

ทางที่จะเลือกไปเหรอ….แน่อยู่แล้ว

เท้าทั้งสองพาร่างเขาย่ำเข้าสู่พื้นที่ป่า….ไม่มีความลังเลใดๆ



+++++++++++






สีขาวเป็นสีที่ชวนให้สบายใจ  นุ่มนวล และไร้พิษสง  แต่หากมันเป็นสิ่งเดียวที่พบเห็นในคลองสายตาแล้วล่ะก็   มันดูจะเป็นสิ่งที่ชวนให้หงุดหงิดไม่เบา

ภาพตรงหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนทำให้ระลึกได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในโลกปรกติ   สีขาวของหมอกหนาทึบปกคลุมรอบตัว  ทัศนวิสัยเท่ากับศูนย์  อย่างที่ชวนให้นึกว่าถ้าโชคร้ายเกิดเจอสถานการณ์แบบนี้ท่ามกลางสนามรบ  คงไม่วางถูกศัตรูยิงตาย

สิ่งที่ทำได้….ก็คงเป็นอย่างที่คนคนนั้นเคยสอน

มีดสั้นถูกชักออกจากที่อยู่ดั้งเดิม  เขากำมันกระชับด้วยมือขวา แขนทั้งสองข้างถูกใช้ในการเบิกทาง  ราวกับหมอกเบื้องหน้าเป็นพุ่มไม้รกร้างซึ่งจะหายไปเพียงเขาออกแรงตัดทำลาย

ไม่นาน  หมอกสีขาวก็จางหายไป

แทนที่ด้วยเสียงพูดที่ดังขึ้นมา

....



+++++++++++



“งั้นเหรอ…..ดูเหมือนพวกเขาล่ะสินะ”

เขามองนัยน์ตาสีเขียวอมเทาที่หรุบมองต่ำลงตรงหน้า  เสียงของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปจากน้ำเสียงร่าเริงจนน่ารำคาญที่ทำมาตลอด….นิดหน่อย   เลห์มเพียงแต่มองดู  ไม่มีคำพูดใดออกจากปาก  

ไม่ใช่ธุระของเขาที่ต้องใส่ใจเด็กกวนประสาทที่ไม่รู้จัก

แค่ภาพคนตรงหน้าทำให้เขาคิดถึงใครอีกคนนึง

แจ๊คกลับมาพูดเรื่อยเปื่อยเป็นตัวเองในเวลาไม่นาน  เขาฟังแบบปล่อยให้มันลอยผ่านหูไป   จากนั้นเมื่อดูจะถึงเวลาที่สมควรเด็กนั่นก็ส่งของหนึ่งมาให้  ขู่เสียดิบดีว่าห้ามเปิดก่อนจะออกจากที่แห่งนี้ไป

เลห์มตอบสนองมันด้วยการนิ่งเงียบ  ก่อนทุกอย่างจะจบลง  และเขาลืมตาขึ้นจริงๆในโลกอีกแห่งหนึ่ง

















.




...



.....



...........









‘หือม์…...คิดถึงผมด้วยเหรอ…..เป็นคนดีเหมือนเคยเลยนะครับ’






‘ผมเองก็รักเธอนะ  แต่ให้คิดถึงกันขนาดนั้น  สำหรับเธอแล้วออกจะเสี่ยงไปสักหน่อย’






‘ถ้ายังไงล่ะก็….ความคิดพวกนี้  ผมขอลบมันไปก็แล้วกัน’






‘หลับฝันดีนะครับ….เลห์ม…..น้องชายที่น่ารักของผม’
















It's only a mission in dream. which he cannot remember it, totally.






[End of  DCS mission]



วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[EBF][Lehm] 'S'

เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
 
 
 
 
 *export from x
----------------------------------------------------------------------------------
 
 
From Main event : [Warning!] "Unknown"
 
 
 
Lehm Leisel
#3136
 
 
 
Response to
 
Airforce Unknown Research Project
 

 
Recommend read other parts before :
 
 
Uncertainty @findarato : link
 
I know.... @dcerulea  : 1 / 2
 
You're... @sarail : link
 
Escaped - Blanca Eirwin @gale : link
 
Fish @sarail : link
 
REPORT @sarail  : 1 / 2
 
Aquarium @sarail   :  1 / 2 / 3
 
(เก็บ ref ครบไหมนะ OTL)
 
 
 
 
 
 
and now
 
[' S ']
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
"ข้าคิดว่าท่านจะไม่เห็นเสียอีก"

"กับดักเจ้าไม่เลว  จังหวะที่ลงมือก็ไม่มีอะไรให้ข้าติได้"

"ถ้างั้นแล้วทำไมข้าถึงล้มท่านลุงไม่ได้"

"สัญชาตญาณล่ะมั้ง"

"สัญชาตญาณ?"

“เจ้า ไม่เคยรู้สึกเหรอ เสียงในหัวที่ร้องเตือน  ปราศจากทั้งเหตุผลและข้อมูลที่เพียงพอในการตัดสินใจ  แค่ลางสังหรณ์ที่ไม่มีข้อพิสูจน์อะไร....."

"แต่จำไว้...เลห์ม....ทหารที่ไม่มีสัญชาตญาณจะพลาดและตาย"
 
 
 
 


เลห์ม ไลเซลนั่งอยู่บนโซฟาพลางยกชาร้อนขึ้นจิบ  ดวงตาเขาจับจ้องที่หน้าแรกของหนังสือพิมพ์ในมือ  หากแต่สายตาไม่ได้เลื่อนไปตามบรรทัดหรือใส่ใจในอักษรพาดหัวข่าว

เขากำลังคิด...ไม่ใช่อ่าน

เลห์ม เคยยืนอยู่ในสนามรบ  มันเป็นเรื่องในอดีตเก่าก่อน  สมัยที่เขาจับปืนเข้าร่วมรบพร้อมกับคนอื่นในครอบครัว   ช่วงเวลาที่ประสาทหูเคยคุ้นกับเสียงระเบิด  สายตาว่องไวในการจับและประเมินความเคลื่อนไหว  และสองมือชินชากับการทำลาย... 

เขาไม่ใช่คนยกยอตน  แต่ก็ลำพองในสัญชาตญาณของตัวเอง..

หลัง จากถูกปลดระวางเช่นเดียวกับอาวุธที่ชำรุด  เก็บตัวอยู่ในโกดังและใช้ชีวิตอย่างขยะที่ไม่อาจทำลายได้    เมื่อคำสาปย้อนร่างกายเขากลับมาจุดเริ่มต้น  อดีตทหารก็ใช้เวลาหนึ่งปีเต็มในการเรียกความสามารถทุกอย่างกลับคืนมา  แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฟื้นสิ่งที่ทิ้งร้างไปหลายสิบปี  หากแต่การยิงปืนก็เหมือนการขับจักรยาน ถึงปากบอกว่าลืม ร่างกายก็ยังคงจดจำ  ทั้งวินาทีซึ่งสายตาจับเล็งเป้า  และชั่วจังหวะที่หนึ่งนิ้วกดเหนี่ยวไก....

อย่างไรก็ตามแม้จะเรียกทักษะอื่นกลับมาได้แล้ว  ดูเหมือนเขาจะไม่ได้สิ่งสำคัญที่สุดกลับมา.....

เลห์ มวางแก้วชาว่างเปล่าไว้บนโต๊ะ หลับตาเอนหัวพิงพนัก ความคิดทำให้เขาเกือบเผลอหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ และต้องการเครื่องดื่มที่ดีกรีแรงกว่าชา แต่ไม่ว่าจะเหล้าหรือบุหรี่ก็ไม่เหมาะสมกับทั้งสถานที่และเวลา

ครั้งแรกมันไม่ร้องเตือน  เขาแก้ตัวว่าว่าตนเองประมาทเกินไป

ครั้งที่สอง....มันร้องเตือน....ทั้งที่ไม่มีเหตุการณ์ผิดปรกติอะไร

ครั้งนี้....เขาจะเชื่อถือมันได้ไหม?

ดวงตาสีแดงเบิกโพลงขึ้นไล่คำถาม และ’สัญญาณ’ที่ดังในหัว  เขาลุกขึ้นยืน  ทิ้งหนังสือพิมพ์กองไว้บนโซฟาหนัง  เท้าทั้งสองไล่ตามความคิดไปหยุดยืนเบื้องหน้าเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่ตั้งกิน พื้นที่ไปเกือบหนึ่งในสี่ของห้อง สายท่่อยาวจำนวนมากต่อเชื่อมมันกับแทงค์น้ำทรงสูงที่บัดนี้ถูกปกคลุมด้วยผ้า ผืนหนาสีขาว ตัดขาดอะไรก็ตามด้านในออกจากสภาพแวดล้อมภายนอก

หรือบางที  อาจจะกลับกัน

เลห์ มฟังเสียงครางหึ่งๆน่ารำคาญซึ่งแสดงว่าอุปกรณ์ข้างหน้ากำลังถูกเปิดใช้งาน ขณะไล่สายตามองหน้าปัดตัวเครื่อง  อันที่จริงเขาก็แค่..ไม่สบายใจ  จนต้องลุกขึ้นมายืนดูเครื่องจักรที่ตัวเขาเองก็ไม่ได้เข้าใจมากนัก   ถึงจะเคยถามถึงสิ่่่งที่ต้องรู้เพื่อป้องกัน ‘อุบัติเหตุ’ จากนักวิจัยเพื่อนร่วมงานมาอยู่บ้างแล้วก็เถอะ

คิ้วเข้มขมวดขึ้นเมื่อเห็นเข็มของหน้าปัดอันหนึ่งอยู่ในช่องสีแดงเกือบจะแตะปลายสุดเลขศูนย์

อากาศ?

เขาไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเลินเล่อ  โดยเฉพาะกับอันโนนที่เจ้าตัวแสดงออกชัดเจน...ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่...ว่าไม่อยากให้ตาย 

เสียงในหัวร้องดังยิ่งขึ้น....

เหตุผลอะไรที่ทำให้บลังเช่เอาเจ้านั่นกลับเข้าไปอยู่ในแทงค์อีกครั้งกัน?

เลห์ มรู้สึกถึงกล้ามเนื้อของตนที่เกร็งแน่น  ความเย็นลากไปบนแผ่นหลัง  ศีรษะปวดหนึบเหมือนสติถูกบังคับให้จดจ่ออยู่กับตรรกะผิดเพี๊ยนที่สลัดทิ้ง ไม่ได้   เขาเหลือบมองคุกน้ำอันสุดท้ายที่ยังบรรจุของเหลว  เครื่องมือที่บลังเช่ แซนดิเวียร์เคยบอกด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่าเอาไว้บรรจุ ‘ปลา’

รองเท้าบูทคอมแบทย่ำอย่างมั่นคงพาร่างเจ้าของผิวสีเข้มไปหยุด อยู่เบื้องหน้าหลอดทดลองขนาดใหญ่ และโดยไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากนัก ผ้าสีขาวผืนใหญ่ถูกเลิกออก

พร้อมกับที่เข็มบนหน้าปัดเครื่องขยับไปสุดปลายสีแดง
 
 





พลอากาศโทอเล็กเซย์ อาร์ด-รีนั่งมองเอกสารรายงานในมือขณะที่แอร์คอร์ของเขาส่งเสียงร้อง  ภายในบรรจุข้อความที่ถูกส่งมาใหม่  ต้นทางของมันคือพลทหาร 3136

เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ aplomado อีก  นอกเหนือไปจากงานโปรเจคเดียว....

“S”

พล โทแห่งกองทัพอากาศปราดสายตาครู่เดียวก่อนเก็บแอร์คอร์ลุกขึ้นยืน  ความสงบตลอดบ่ายถูกทำลายลงด้วยรหัสง่ายๆเพียงหนึ่งตัว  รหัสที่เขาเคยตกลงไว้กับพลทหารซึ่งรับหน้าที่ watcher ของโครงการศึกษา unknown ในห้องทดลอง
 
 
 
 
 
 
 
S means Escape
 
 
 
 
 
 
TBC(?)
 
 
 
----------------------------------------------------------------------------------
 
 
- ตอนแรกจะปรับเป็นคอมิก  แต่ทำโดยให้มันคงสิ่งที่ต้องการสื่อไม่ได้....เลยเป็นฟิคแทนละกันนะ
 
- unknown นี่ก๊าวไม่จบจริงๆ แฮ่กๆ
 
- เรื่องของ instinct ของเลห์มเดี๋ยวมีต่อ...ในอนาคต
 

[EBF][story] 28/03/1027 17.52

Date : 28/03/1027
Time :  17.52
Place : Frozenhyde
POV : Aidel Kreveus
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ไอเดล เครเวียส ขมวดคิ้วมุ่น ในใจนึกสงสัย ทำไมช่วงนี้รอบตัวเธอถึงมี ‘อันตราย’ ปรากฎขึ้นบ่อยนัก

ดวงตาสีแดงตวัดมองชายสามคนซึ่งกระจายอยู่เบื้องหน้าเธอ ปิดทางออกจากซอยตันแคบๆ  พวกเขามาจากที่อื่น ดูจากการแต่งตัวและเหตุผลที่ว่าเธอไม่เคยเห็นพวกเขาในเมืองนี้มาก่อน  ถึงจะไม่อาจเรียกได้ว่าเป็นคนพื้นที่  แต่ไอเดลก็มั่นใจ เวลาเกือบปีที่มาเปิดร้านขายของ ตลาดทางฝั่งนี้ของฟรอเซนไฮด์ไม่ได้ใหญ่โตเกินกว่าที่เธอจะทำความคุ้นเคยกับ ชาวบ้านซึ่งลงรากปักฐานอยู่มาก่อน

“ข้าปิดร้านแล้ว  ถ้าจะซื้อของ พวกเจ้าคงต้องมาใหม่สัปดาห์หน้า”  ถ้อยคำจากปากแม่มดห้วนสั้น  น้ำเสียงนิ่งราบเรียบไร้ความหวาดกลัวสิ้นเชิง

“แล้วถ้าพวกข้าจะซื้อแม่ค้า จะต้องจ่ายเท่าไหร่กัน”  อีกฝ่ายตอบกลั้วหัวเราะอย่างหยาบคาย  พร้อมส่งสายตาแทะโลมตรงมาอย่างที่เธอเกลียดชังนัก

มนุษย์....ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็น่ารังเกียจเสมอ

“เขาว่าคนสวยที่แท้ต้องใจดีถูกไหม?”  คำถามขึ้นเสียงสูงพูดขึ้นลอยๆ  เหมือนคำข่มขู่เสียมากกว่าจะต้องการคำตอบจากเธอ  มือกักขฬะมือหนึ่งยื่นมาจากทางด้านหน้า  ไอเดลยกคทาขึ้นปัดมันทิ้ง ขณะที่ลูกแก้วสีแดงส่องประกายเรื่อสะท้อนแสงอาทิตย์ยามเย็น  

“พวกเราต้องการแค่ยา....ทิ้งกระเป๋าไว้ แล้วข้าจะให้เจ้าออกจากตรอกนี้อย่างปลอดภัย”
ชาย คนกลางที่ดูจะเป็นหัวหน้าพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หากไอเดลยังเลือกมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหยียดหยาม  มือซ้ายของเธอล้วงเข้าไปในกระเป๋าตนเอง  

ไม่ต้องเสียเวลาควานหา เธอรู้เสมอว่าขวดยาที่ต้องการอยู่ตรงไหน.....
 

“คุณทหารครับ ทางนี้ครับ มีคนกำลังรุมรังแกผู้หญิง!” 

เสียงตะโกนดังขึ้นขัดจังหวะเรียกให้คนทุกคนในที่นั้นหันไปมอง  จากปากของตรอกแคบเป็นร่างของคนคนหนึ่ง  แสงจากดวงอาทิตย์ด้านหลังทำให้มันเป็นเงาดำๆ  มองไม่ชัดเจน

“แถวนี้ไม่ใช่ฐานทัพ  ไอ้นั่นคิดว่าพวกเราโง่หรือไงกัน”  หนึ่งในสามพูดเยาะ  ส่งสายตาให้ชายร่างหนา  เมื่ออีกฝ่ายพยักหน้าเขาจึงเดินออกไปยังปากทางด้านนอก  คงจะเพื่อจัดการ ‘แขก’ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่โผล่มาขัดจังหวะ

“อ้ากกกกกกกก”

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นจากภายนอกไม่กี่วินาทีถัดจากนั้น  สองคนตรงหน้าเธอฉีกยิ้ม  หันมามองกันเองราวกับกำลังขบขัน

เสียงเงียบไปแล้ว  หากคนที่หายไปไม่กลับมา….

“เจ้านั่นไปไหนนานนัก”  ‘หัวหน้า’ ขมวดคิ้วมุ่นเอ่ยกับอีกคนเป็นสัญญาณให้เขาออกไปดู  ส่วนตัวเองหันกลับมาเผชิญหน้ากับเธอ น้ำเสียงต่ำราบเรียบข่มขู่   “ข้าว่าทำให้มันจบโดยเร็วจะดีกว่า” 

ไอเดลกำลังจะดีดนิ้วเปิดขวด....
 
พลั่ก!

เสียงของหนักกระแทกพื้นเรียกความสนใจได้อีกครั้ง  ชายตรงหน้าหล่อนขยับตัวอย่างรวดเร็ว ดาบในมือที่ถูกชักออกจากฝักบ่งบอกว่าเจ้าตัวสันทัดกับการต่อสู้  เขาคงจัดการอะไรก็ตามที่เกิดขึ้นได้อย่างสุขุม   หากแต่ของที่ลอยมาตรงหน้าไม่ใช่สิ่งที่เขาจะลงมือฟัน....

“บ้าเอ๊ย!”  เธอได้ยินเขาสบถ  ก่อนจะเบี่ยงตัวหลบร่างของ ‘ลูกน้อง’ ที่ปลิวลอยมาจากปากทาง   เขาทำได้ดีทีเดียว ทรงตัวได้หลังจากเซไปเพียงเล็กน้อย  แล้วหันไปเตรียมพร้อมกับสิ่งที่อาจจะพุ่งตรงมาอีกจากเบื้องหน้า
แต่ไม่ทันแล้ว

ท่อนเหล็กขนาดพอเหมาะฟาดที่หัวเขาถนัดถนี่  ร่างใหญ่ล้มลง ถ้อยคำหยาบคายพรั่งพรูจากปากดังพร้อมกับมือใหญ่ปาดเลือดที่ไหลลงมาที่ตา  ศีรษะสะบัดราวกับจะไล่ความงุนงง   

เขาเป็นคนแข็งแรง ไอเดลมั่นใจว่าใช้เวลาเพียงชั่วครู่คงจะกลับมาต่อสู้ได้  อย่างไรก็ตามเธอไม่มีโอกาสจะเห็นต่อจากนั้น  ข้อมือขาวถูกจับรวบด้วย เงาที่เห็นไม่ชัดแล้วฉุดลากไปยังปากทาง   

ถึงจะเป็นสถานการณ์สับสนเช่นนี้  แต่ที่จริงคนเป็นแม่มดก็บอกได้ว่าจะไม่ยอมให้ใครดึงเธอไปไหนมาไหนได้ง่าย ดายนักเป็นแน่  หากอีกฝ่ายจะไม่พูดบางอย่างออกมา
 

“รีบชิ่งกันก่อนตอนที่ยังมีเวลาเถอะครับ พี่สาวไอเดล”   


 
 
 
 
 



“ไม่เจอกันนาน  พี่สาวยังมีแรงดึงดูดคนประหลาดเข้าหาตัวได้เสมอเลยนะครับ” 

“ข้าไม่ได้ร้องขอเสียหน่อยนะ....เมเลค”  คิ้วเรียวบางขมวดมุ่นขณะป้ายยาที่ซื้อจากร้านแถวนั้นลงบนบาดแผลบนข้อมือของ อีกฝ่าย  หลังใช้เวลาซักไซ้อยู่พอควร  เจ้าตัวยอมบอกจนได้ว่าสาเหตุมาจากมีดของคนที่ออกมาจากตรอกคนแรก  ซึ่งอยู่ๆก็ชักออกมาตอนที่เขากำลังหาทางถีบมันอยู่พอดี

“ทำอะไรเกินตัวจริงๆ”  ไอเดลบ่นพึมพำ แล้วเริ่มคิดถึงการพกยารักษาแผลเล็กๆอีกสักขวดในกระเป๋า  ขณะที่ ‘คนพูดมาก’ เปิดปากพล่ามไปเรื่อย

“ที่จริงผมออกจะเป็นคนรักสงบ เลือกได้ก็ไม่อยากหาเรื่องหรอกนา  แต่เจอพี่ไอเดลเดินผ่านต่อหน้าต่อตาว่าจะตามไปทักทั้งที  ดันเจอแขกไม่ได้รับเชิญตั้งสามคน  แถมดูยังไงก็ไม่น่าเป็นเพื่อนหรือญาติพี่ซะด้วย  ผมจะทำไงได้ล่ะ”  ชายหนุ่มว่าน้ำเสียงโอดครวญ  ดวงตามองตรงอย่างขอความเห็นใจ

คนเป็นแม่มดได้แต่ถอนหายใจ  ท่าทางคนตรงหน้ายังไม่เปลี่ยนจากที่เธอเจอครั้งแรกสักนิด  “ยังไงก็ต้องขอบใจ  เจอกันอีกทีก็ต้องให้เจ้าช่วยอีกแล้ว”  เธอละมือจากแขนอีกฝ่ายเมื่อผ้าพันแผลสีขาวอยู่ประจำที่ของมันเรียบร้อย  หันไปเก็บอุปกรณ์ลงในกระเป๋าใส่ของ  แล้วจึงถามต่อ “เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”

“ทำงานนิดหน่อย  แล้วก็เที่ยวอีกนิดนึง”  ชายหนุ่มตอบเสียงใสพร้อมรอยยิ้มที่กลับมาประดับกว้าง   อย่างพอจะบอกเป็นนัยให้คนฟังเข้าใจได้ว่า  เหตุผลอย่างหลังดูจะมีน้ำหนักมากกว่า  “พี่สาวล่ะครับ?”

“ข้าก็มา....ทำงาน” เธอตอบยิ้มๆ “เห็นแบบนี้ก็พอจะมีความรู้เรื่องยานิดหน่อย  ข้าเปิดร้านขายยาในตลาด”

“ชีวิตที่นี่คงไปได้ดีพอควร  สีหน้าพี่ดูดีกว่าตอนเราเจอกันครั้งแรกตั้งเยอะ”  อีกฝ่ายตั้งข้อสังเกต  เมเลคเป็นคนร่าเริง  พูดน้ำไหลไฟดับได้เรื่อยเหมือนคนไม่คิดอะไร  แต่เขาจับสีหน้าคนได้เก่งทีเดียว

“จะว่าดีขึ้นก็ดี....ข้ายุ่งทุกวัน ไม่ค่อยมีเวลาคิดเรื่องแย่ๆ”  

“เห  นึกว่าพี่มีแฟนซะอีก”  ดวงตาสีดำมองด้วยประกายวิบวับพร้อมเสียงหัวเราะขำๆ  “ขอโทษนะพี่  ผมแอบถามคนแถวนั้นเห็นว่าพี่ปิดร้านเร็วทุกวัน  คนทำแบบนั้นส่วนมากไม่ได้อยู่คนเดียว” 

“ข้าอยู่กับคนอื่น หล่อนเป็นอาจารย์” เธอทำหน้าดุใส่อีกฝ่ายก่อนจะเอามือฟาดไหล่เขาทีนึง  “อย่ามาล้อเลียนข้านะเมเลค”

“ผมไม่ได้ล้อเลียนนะ  แค่อยากรู้อยากเห็นเอง”  คนถูกตีคลำแขนตัวเองป้อยๆเหมือนเจ็บเสียเต็มประดา  แต่ไม่นานก็หยุด เขานิ่งเงียบไม่พูดต่อ  จ้องมองเธอด้วยสายตาเป็นประกายเหมือนรออะไรบางอย่าง

“มีอะไร?”  ไอเดลตัดสินใจถาม  

“เจอกันทั้งที ไม่คิดเลี้ยงข้าวเย็นผมที่บ้านสักมื้อเหรอ”  สีหน้าอีกฝ่ายเปลี่ยนไปเหมือนกับลูกสุนัขขออาหารเสียแล้ว

ไอเดลนิ่งไปนิด ยิ้มจางๆก่อนส่ายหน้า  “ขอโทษนะเมเลค บ้านข้าไม่ต้อนรับผู้ชาย”  เธอมองหน้าอีกฝ่ายที่ดูสลดลงไปหลังฟังคำตอบนั้น  ก่อนเสริมคำพูดตัวเอง “ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจเจ้าหรอกนะ  แต่คุณยาย...อาจารย์ของข้าน่ะ  หล่อนไม่สะดวกใจกับการให้ผู้ชายเข้าไปในละแวกบ้าน” 

“แย่จัง  อย่างนี้ผมก็ไม่มีโอกาสได้ไปพักฟรีบ้านพี่สินะ”  เจ้าตัวว่าพลางหัวเราะแหะๆมือขวายกขึ้นเกาหัวดูไม่ติดใจอะไร  อย่างไรก็ตาม  คนมองกลับรู้สึกเหมือนตนเองทำอะไรผิดจนได้ 

“เจ้าจะลงใต้อีกเมื่อไหร่?”

“น่าจะอีกสองสามวัน”

“ถ้าพรุ่งนี้เจ้าว่าง  ข้าจะเลี้ยงอาหารเที่ยงสักมื้อ”  ไอเดลบอกกับอีกฝ่าย ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก   วันนี้เป็นอีกวันที่มีเรื่องราว  บรรยากาศรอบข้างเริ่มมืดลงแล้ว  และเธอไม่อยากรั้งรอจนแสงจันทร์สว่างเกินไป

“ให้ผมไปส่งไหม  จะมืดแล้ว  เดินคนเดียวอันตราย”  เมเลคเสนอ  สีหน้าเขายังยิ้มแย้มแต่ก็แฝงไปด้วยความเป็นห่วงที่ทำให้คนฟังสบายใจ

ไอเดลมองเขาอย่างชั่งใจ  เธอไม่อยากทำลายความปรารถนาดีของคนตรงหน้า แต่อีกใจก็ไม่อยากให้ใครรู้ที่ตั้งของ ‘บ้าน’  

“แค่ตรงตีนเขาก็พอนะ “  เธอตอบเรียบๆในที่สุดแล้วพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต  ระหว่างที่หยิบผ้าคลุมออกจากกระเป๋ามาคลุมตัว  ชายหนุ่มก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง เขายกมือขึ้นประสานที่ท้ายทอยก่อนเดินด้วยทีท่าสบายๆตามหลังเธอไป  ปากเล่าเรื่องแปลกๆและน่าขันหลายเรื่องที่พบเจอระหว่างการเดินทาง 
 
 
 
 

[EBF][EoW] Aidel Kreveus

เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
 
 
 
 
 
 *export from x
 --------------------------------------------------
 
 
 
 
1/2NPC : Elixir of the world
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ชื่อ : ไอเดล เครเวียส / Aidel Kreveus
 
เผ่าพันธุ์ : แม่มด
 
วันเกิด :  1  เมษายน  876
 
อายุ : 150 ปี
 
สังกัด : Elixir of the world สมาคมนักเล่นแร่แปรธาตุและนักทำนาย
 
สถานะ : 1/2 NPC
 
 
 
หน้าตา/ลักษณะนิสัย
 
-   เจ๊สวย (ชัดเจน / ฝีมือคนวาดได้เท่านี้ แต่ทุกคนจงจินตนาการว่าเจ๊สวยเถอะ )
 
-   ถ้าถามว่าสวยแค่ไหน  ขอนิยามว่าสวยแบบที่มีคนยอมแบกบนหลังได้ 7 วัน (อะไรนะ ติด LC LSK..../เบลอ) 
 
-   มีลายสักลวดลายสีดำรูปร่างแปลกตาที่่แขนซ้าย 
 
-   นิ่่งๆ พูดน้อย ใช้สมองก่อนพูด ประหยัดถ้อยคำ ไม่เล่าก่อนถูกถาม ถ้าโดนถามละลาบละล้วงมากก็อาจจะไม่ตอบ หวงเนื้อตัว จับมือถือแขนโดยไม่ได้รับอนุญาตมีตบ  และจะถูกหักค่าคะแนนความสัมพันธ์ด้วย (หะ)
 
-   ระมัดระวังตัว พยายามเว้นระยะห่างกับชาวบ้าน ขี้ระแวงคนแปลกหน้า  สงสัยไว้ก่อนขอโทษทีหลัง
 
-   เอาจริงๆก็คือไม่ไว้ใจคนอื่นโดยเฉพาะ “มนุษย” ์อื่นๆ แต่ก็อ่อนให้กับเด็กๆบ้าง (คอนเซปนางงาม)
 
-   ถึงจะเป็นอย่างนั้น แต่ก็ไม่ได้ทันคนมากนัก ปรกติเอาแต่หมกตัวในหมู่บ้าน หลอกไปหลอกมาก็หลุดได้
 
-   ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเผ่าแม่มด คำพูดคำจาท่าทางจะใจดีขึ้น 70%  
 
-   อย่างไรก็ตาม ถ้าชวนคุยถูกเรื่อง อาจจะลืมๆเรื่องเผ่าพันธุ์ไปได้และถกปัญหากันได้ยาวยืดเป็นชั่วโมง 
 
-   ถ้านำไอเทมที่ถูกต้องมาด้วยตอนคุยจะอารมณ์ดีมากๆและเปิดใจง่ายขึ้น 30%
 
-   ถ้าทำให้ไว้ใจได้ (ค่าความสัมพันธ์ >10000 / มันขึ้นทีละเท่าไหร่?) ยินดีด้วย คุณได้พี่สาวใจดีที่ช่างเป็นห่วงเป็นใย 1 ea 
 
-   ถ้าท่านอยู่ใน stage ดังกล่าว จะได้รับยาธรรมดา 1 อย่างเป็นของฝาก ถ้าเจอกันแล้วเจ๊อยากให้ (นี่มันเกม RPG ....)
 
-   แต่ระวังหน่อยนะ ถ้าเจ๊รู้ว่าถูกหักหลัง/ทำร้ายกันเมื่อไหร่ ค่าความสัมพันธ์จะเด้งไปติดลบและขึ้น blacklist ทันที
 
-   อนึ่ง ค่าคะแนนความสัมพันธ์ไม่มีจริงในสตอรี่ จะมีก็แค่ความรู้สึกว่าเจ๊จะมองในแง่ลบหรือแง่ดีเท่านั้นเอง (ใส่ดักไว้เผื่อใครจริงจัง.....)
 
 

เวทมนตร์ความสามารถทางเวทมนตร์แต่กำเนิด
 
คำสาปสองหลุมศพ  
(รายละเอียดรอปลดล็อค / ใครต้องการโคเรื่องก่อนหน้านั้นหลังไมค์เป็นการส่วนตัวได้ค่ะ)
 
 

ความสามารถอื่นๆ
 
- เวทมนตร์จิปาถะแบบแม่มด
 
- แปรสภาพธาตุด้วยกฎของการเล่นแร่แปรธาตุ 
 
- ทำอาหารอร่อย
 
- ใช้มีดเป็นในฐานะคนทำครัว  หั่นวัตถุดิบปรุงยาเท่านั้น กำลังกายต่ำ ความสามารถในการสู้รบต่ำ ถ้าให้เลือกสู้ด้วยวิธีกายภาพเจ๊ก็เอากริชจิ้มลูกเดียว ทิ่มไปทิ่มมาบาดตัวเองได้อีก  ไม่มีใครเข้าใจเลยว่าตอนใช้ทำอาหารก็ใช้ได้ทำไมตอนสู้ถึงห่วยขนาดนั้น
 

ชอบ
 
-   ของหวานจำพวกเค้ก ชอกโกแลตร้อน  ชอบอาหารที่ปรุงให้มีกลิ่นหอม  รวมถึงชาด้วย
 
-   สัตว์ขนฟูหนานุ่ม
 
-   ศึกษาค้นคว้าเรื่องการเล่นแร่แปรธาตุ
 
-   คืนเดือนมืด (เพิ่งมาชอบหลังเข้าสมาคมฯนี่แหละ)
 

ไม่ชอบ
 
-   คนแปลกหน้า
 
-   คนหักหลัง กลับกลอก
 
-   นักล่าแม่มด
 
 
 
ประวัติโดยย่อ
 
- ลูกสาวคนสุดท้องของตระกูลเครเวียส  หลังการหลบหนีที่กินเวลายาวนาน  ครอบครัวถูกนักล่าแม่มดสังหารในปี 894
 
- เธอกับพี่สาวคนรองเป็นเพียงสองคนที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น
 
- ได้ทำการสาปแช่งคนหนึ่งคนในตระกูลไลเซลที่ฆ่าล้างครอบครัวเธอ  
 
- หลังจากนั้นก็หมกตัวอยู่ในวีเลีย แทบไม่เคยออกไปไหน แม้จะผ่านช่วงยุคล่าแม่มดแล้วก็ยังกลัวที่จะออกจากหมู่บ้าน  หลังจากฟื้นจากภาวะเศร้าซึมที่เสียครอบครัวได้บ้างด้วยความช่วยเหลือของพี่ สาว  ก็ใช้เวลาไปกับการศึกษาศาสตร์การเล่นแร่แปรธาตุและการปรุงยาด้วยตนเองจาก ตำรา
 
- พี่สาวคนรองตายเมื่อปีก่อน จึงได้ออกเดินทางจากวีเลียขึ้นเหนือไปยังฟรอเซนไฮด์ด้วยเป้าหมายหนึ่ง
 
- ตอนนี้พักอยู่ที่ฟรอเซนไฮด์  กับหญิงชราซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งในสมาคม elixir of the world  ก็เรียนรู้จากเธอ นับถือกันเป็นอาจารย์
 
 
 
โรคประจำตัว :  Moonlight allergy

 
Precipitating cause/ตัวกระตุ้นอาการ   แสงจันทร์
 
Sign &symptom/อาการและอาการแสดง
 
หากโดนแสงจันทร์โดยตรง/ไม่อยู่ในที่หรือมีอุปกรณ์ป้องกันแสงจันทร์ได้เพียงพอ
 
- ใช้เวลาประมาณครึ่งนาทีจะมีอาการคันที่ผิว รู้สึกไม่สบายตัว ผิวเป็นผื่นแดงเรื่อขึ้น (แต่ไม่มีอาการบวม) ถ้ามองแสงจันทร์ตรงๆก็จะเคืองตาแสบตาน้ำตาไหลได้
 
- ผ่านไป 3 นาที ถ้ายังไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จะเริ่มหายใจหอบ (ถ้าฟังเสียงปอดจะเป็น wheezing (หายใจมีเสียงวี๊ด) ไปนานๆอาจจะ poor air entry (ฟังเสียงปอดแทบไม่ได้ยินเนื่องจากหลอดลมตีบ)) เวียนหัว คลื่นไส้อาเจียน 
 
- ผ่านไป 5 นาที ถ้ายังไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จะเกิดความดันตก อยู่ในภาวะชอก
 
- ราวๆสิบนาทีอาจหมดสติได้  
 
-  หากไม่ได้ถูกนำให้พ้นจากที่ๆโดนแสงจันทร์และได้รับการปฐมพยาบาลอาจตายได้ 
 
สรุปแล้ว แพ้ถึงขั้น anaphylaxis (แพ้รุนแรง)

 
Treatment/การรักษาหลังเกิดอาการ

- พาให้พ้นจากแสงจันทร์*สำคัญที่สุด

 - เจ้าตัวปรุงยารักษาอาการตัวเองติดอยู่ในกระเป๋า ถ้าหากฉัดแล้วนอนพักอาการจะดีขึ้น (ยาไม่สามารถสู้กับอาการแพ้ได้ถ้าไม่พาหลีกหนีจากสิ่งที่แพ้ก่อน/คือกินกลาง แสงจันทร์ไม่ช่วยอะไร)
 
- ถ้าหายาไม่เจอ สามารถให้แพทย์แผนปัจจุบันคราทอสรักษาเหมือนอาการแพ้เฉียบพลัน /anaphylaxis ทั่วไปได้ 
 
 
Prevention/การป้องกัน

- หลีกเลี่ยงการให้แสงจันทร์ตกต้องกับผิว สามารถทำได้โดยหลบอยู่ในอาคาร ถ้าเป็นกระจกก็ปิดม่านหน้าต่างเรียบร้อย หรือใช้ผ้าที่หนาพอคลุมตัว / ปรกติเจ๊จะมีผ้าคลุมที่ทำการทดสอบแล้วว่าใช้ป้องกันแสงจันทร์ได้ติดตัว
 
 
 
สัมภาระ

-   คทา  ใช้ในการเพิ่มอำนาจเวทมนตร์ที่ใช้สำหรับงานจิปาถะ เขกหัวชาวบ้าน และตากผ้าได้ถ้าเอาพาดระหว่างเก้าอี้สองตัว
 
-   กริชพกพา  อันตรายมากต่อทั้งผู้อื่น...และตัวเอง
 
-   ลูกแก้วลูกนึง
 
-   ชิ้นส่วนศิลานักปราชญ์ (ยังไม่เปิดเผยรูปลักษณ์)
 
-   ยาวิเศษและยาอื่นๆ
 
 
 
ยาวิเศษ
 
เก็บอยู่ในรูปของ cube  สี่เหลี่ยมลูกบาศก์ใสไร้รอยต่อ  ถึกและทนตกไม่แตก กระทืบไม่พัง
เมื่อเจรจาซื้อขายเสร็จสิ้น  ไอเดลจะทำการเปลี่ยนสภาพมันเป็น "กล่อง" ให้ (รูปด้านขวา)
 
ถ้าสามารถอีก...ฝืนทำพังโดยไม่ได้ผ่านผู้ขาย....จะระเบิดนะ
 
 
1. Telepathy
 
สรรพคุณตรงตามชื่อ คือทำให้ผู้ที่กินมีพลัง telepathy  ชั่วคราว
1. Thought reading ได้ยินเสียงความคิดคนอื่นรอบตัวทั้งหมด
2. Thought broadcasting กระจายความคิดให้คนทั่วไปทราบได้ / ถ้ากระซิบเบาๆอาจเหมือนโฆษณาแฝงหมู่
3. เจาะจงส่งความคิดไปให้ใครคนใดคนหนึ่งได้
หนึ่งเม็ดมีฤทธิ์ 24 hr  ใช้แล้วสำหรับคนไม่เคยคุ้นในการแยกเสียงความคิดชาวบ้าน (ซึ่งก็น่าจะทุกคนที่มาซื้อไปใช้ เพราะถ้ามีพลังอยู่แล้วไม่รู้จะใช้ทำไม) อาจจะมึนหัวเวียนหัวได้
 
ข้อแนะนำการใช้
- เหมาะในการสอดแนม ล้วงความลับ สอบปากคำ หัวหน้าที่ต้องการตรวจสอบความซื่อสัตย์ของลูกน้อง  นักขายข้อมูล และ....ภรรยาที่กลัวสามีนอกใจ 
 
สนน.ราคา : 300,000 ดีเรล / cube (บรรจุ 2 เม็ด)
 
จำนวนคงเหลือ 7/8 (คนซื้อไปเป็นเศรษฐินีคนนึง.....เห็นว่าเอาไปใช้กับสามี)
 
 
 
2. Healing
 
ชื่อนั้นง่ายแต่สรรพคุณไม่ง่ายตามตัว  มีฤทธิ์ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บด้วยการเร่งการฟื้นคืนสภาพของเซลล์  แผลใหญ่ถึงตายหรือโดนอวัยวะภายในก็รักษาซ่อมแซมตัวเองกลับมาอยู่ในสภาพ สมบูรณ์ได้ในชั่วพริบตา(อย่างมากสุดคือใช้เวลาครึ่งนาที) ช่วงเวลานั้นถึงจะโดนโจมตีซ้ำๆก็รักษาตัวเองได้ไปเรื่อยๆ  แขนขาดถ้าเก็บแขนมาวางใกล้ๆท่อนที่ขาดก็ต่อเองได้  แต่หลังจากกินยา 24 ชั่วโมงต่อมาการทำงานของเซลล์จะลดลง ร่างกายต้องอยู่ในสภาพหลับเพื่อฟื้นฟูพลังงานทั้งหมดที่ใช้ในการรักษาตัวเอง ไป (ถ้าแผลใหญ่มากๆเช่นอวัยวะภายในฉีกขาด ตับฉีกปอดทะลุแข้งขาหัก อาจจะหลับไปถึงเดือน แล้วแต่ความสามารถการฟื้นฟูของแต่ละเผ่าด้วย)  
 
ข้อแนะนำการใช้
- เหมาะสำหรับทหาร หรืออาชีพอื่นที่คิดว่ากำลังจะทำงานเสี่ยงตาย  การกินก่อนลงฟิลด์จะช่วยให้ท่านปลอดภัยได้มากขึ้น
ข้อจำกัด
- หัวขาดต่อไม่ได้
- ใช้กับคนตายไม่ได้
- ใช้กับพิษหรืออาการเจ็บป่วยจากโรคไม่ได้
- แพง
 
สนน.ราคา : 300,000 ดีเรล / cube
 
จำนวนคงเหลือ 9/9
 
 
ยาอื่นๆ 
 
-  ยารักษาอาการแพ้เฉียบพลัน
 
 
*ไม่ขาย มีไว้ใช้เองเท่านั้น
 ยาน้ำสีแดงสดเหมือนเลือด วิธีใช้คือเปิดปลอกใช้เข็มปักหน้าขา
(ปักทีเดียวพอไม่ต้องรัว ขาสาวไม่ใช่รังผึ้ง)
 
-  ยาสลบ 
อยู่ในรูปสารระเหยง่ายเมื่อเปิดขวด  ไร้สี ไร้กลิ่น ถูกสร้างเพื่อให้ไม่มีผลกับตัวเอง
ออกฤทธิ์ทำให้สลบประมาณ 3 ชม.  ไม่มีผลข้างเคียง
*นี่ก็ไม่ขาย มีไว้ใ้ช้เอง
 
-  ยาควบคุมการรับรู้อุณหภูมิ
ใช้แล้วจะเป็นการตัดระบบรับรู้อุณหภูมิร้อนเย็นของร่างกายชั่วคราว 
 จิบทีละอึก หนึ่งอึกมีผล 1 ชม.  
ข้อดีคือกินปุ๊บแก้หนาวชะงัด  
ข้อเสียคือตัดความรู้สึกได้  แต่ร่างกายมันไม่ได้ทนขึ้นด้วยหรอกนะ  
ใช้มากเกินวันละขวดอาจทำให้เป็นอันตรายต่อศูนย์การรับรู้อุณหภูมิได้ 
สนน. ราคา : 500 ดีเรล / ขวด / 10 อึก
 
-  ยารักษา frostbite 
        ยารูปแบบเหมือนขี้ผึ้ง ใช้ทาแก้หิมะกัด ได้ผลชะงัดนักแล
เหมาะสำหรับคนที่จะเดินทางไปที่ต่างๆในฟรอเซนไฮด์ซื้อก่อนจะไปร่อน
สนน. ราคา : 200 ดีเรล / ตลับ / 10 gm
 
-  ยาต้านพิษธรรมชาติ
        สร้างจากส่วนผสมซับซ้อน  ใช้รักษาพิษโดยทั่วไปจากพืช สัตว์ แมลง  ตามธรรมชาติ
ไม่สามารถรักษาพิษที่ซับซ้อนจากการปรุงยาได้ 
        เหมาะสำหรับคนเดินทางอีกเช่นกัน 
        สนน. ราคา : 200 ดีเรล /เม็ด
 
-  ยาเพิ่มพลังงาน
ช่วยให้ออกแรงได้มากขึ้น 50%  ระยะเวลาการออกฤทธิ์ประมาณ 3 ชั่วโมง
ไม่แนะนำสำหรับคนไข้โรคหัวใจ
หลังใช้จะหมดแรงมากกว่าการทำงานปรกติ ที่จริงมันคือยาบ้า  เหมาะกับคนที่รู้ว่าจะไปทำงานหนักๆแล้วค่อยกลับมาแผ่พังพาบ
สนน. ราคา : 200 ดีเรล /เม็ด
 
-  ผงชูรส
        ผงสีน้ำตาลทองน้ำหนัก 3 กรัม ส่วนผสมจากเครื่องเทศกว่า 20 ชนิด แม้คุณจะทำอาหารห่วยแตกแค่ไหน ใส่เจ้านี่ซองเดียวจะนึกว่าเป็นฝีมือทำอาหารของพ่อครัวชั้นหนึ่งในคราทอส
สนน. ราคา : 50 ดีเรล/ซอง (ใช้ได้ครั้งเดียว)
 
-  น้ำหอมกลิ่นมังกร
1 หยดแต้มที่จะกลบกลิ่นมนุษย์ธรรมดา  ขู่สัตว์ป่าไม่ให้เข้ามาทำร้ายด้วยกลิ่นมังกร  เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง
สนน. ราคา : 1000 ดีเรล/ขวด (ใช้ได้ประมาณ 10 ครั้ง)
 
-  น้ำยาเปลี่ยนสีผม
        เอาสิ่งที่มีสีที่ต้องการเปลี่ยนผสมกับยา เขย่า 3 ครั้ง กินแล้วสีผมจะเปลี่ยนได้  มีฤทธิ์ 12 ชั่วโมง  ไม่ทำให้ผมเสีย
ไอเดลก็ไม่รู้ว่าทำมาทำไมเหมือนกัน....
สนน. ราคา : 20 ดีเรล/ขวด
 
-  ครีมบำรุงผิวหน้า
สรรพคุณตามชื่อ เป็นของขายที่ขึ้นชื่อที่สุดของไอเดล เครเวียส ถึงขนาดคนมาซื้อจากไอโอธ่า
*ไม่ทำส่งออก ไม่มีตัวแทนจำหน่าย โปรดระวังของปลอม
ผลิตจากส่วนผสมอะไรบ้างไม่ทราบได้  แต่ใช้แล้วหน้าเนียนนุ่ม  สดใสเปล่งปลั่งขึ้นมากจนคนทักได้ในสิบวัน จุดด่างดำดูจางลง  ตีนกาดูหดหาย
ยังไม่พบผลข้างเคียงจาก review ของผู้เคยทดลองใช้ในนิตยสาร
        สนน. ราคา : 1000 ดีเรล / ตลับ / 20 gm (ขายคนละไม่เกินสามตลับ)
 
 
ยาธรรมดาทุกชนิดที่ว่ามา  สำหรับคนในพื้นที่ที่เห็นหน้ามาซื้อกันบ่อยๆลด 20 %
 
-  ยาอื่นๆจิปาถะ สามารถ order สั่งทำได้  จะทำได้รึเปล่าอีกเรื่องนึง /ดีลได้เวลาเปิดร้านหรือเจอหน้าเจ๊ 
 
(จำนวนยาที่มากนี้ ส่วนหนึ่งไอเดลไม่ได้ทำเอง เป็นยาคุณยายที่เป็นอาจารย์เธอฝากขาย)
 
 
สถานที่ที่พบตัวได้
 
- ฟรอเซนไฮด์ (the most)
 - เปิดเพิงขายยาหน้าตาบ้านๆในตลาดกลางฟรอเซนไฮด์ทุกวัน อังคาร- พฤหัส เวลา 8.00 - 17.00 น.
-  วันอื่นๆอาจเดินซื้อของอยู่ในเมืองก็ได้ ไม่ซีเรียส แบกยาเกือบตลอดอยู่ละแต่อาจจะแบกขวดสองขวด
        - บ้านพักในหุบเขาของฟรอเซนไฮด์  **ไม่ต้อนรับผู้ชายและสิ่งมีชีวิตเพศชายทุกชนิด  

- เมืองอื่นๆในคราทอส (อีเวนท์เฉพาะตามเวลาแล้วแต่อารมณ์ผปค. /แอร้ย)
 
 
ติดต่อ : twitter (ใช้อันเดียวกับเมเลค) , ems

paring : จีบได้ แต่มีพลอตคู่แล้ว

ของเมเลคก็สั้นจัด....ของเจ๊ก็ยาวเกิ้น
คิดว่าเจ๊เป็น NPC ขายของหน้าดันเจี้ยน / quest เถอะ 5555555555555

[EBF][TGH] Melech

เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
 
 
 
 
 *export from x
 ----------------------------------------------------------------
 
 
 
 
1/2NPC : The God's Hand
 
 

 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ชื่อ : เมเลค / Melech 
 
วันเดือนปีเกิด :  เหมือนจะต้องเป็นวันที่สักวันในปีไหนสักปีสิเนอะ
 
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์สิ หน้าผมเหมือนอย่างอื่นเหรอ 8D
 
อายุ : ยังไม่แก่ล่ะ
 
บ้านเกิด :  นั่นสินะ จะว่าใกล้ก็ใกล้ จะว่าไกลก็ไกล 
 
สังกัด : The God's hand / สมาคมกองโจรพระหัตถ์
 
สถานะ : 1/2 NPC
 
 
นิสัยและอื่นๆ
 
- พูดมากกว่าหน้าตาที่เห็น  ขี้เล่นกว่าที่คาด ยิ้มหัวเราะบ่อยกว่าที่คิด
 
- ชวนเขาคุยไปได้เรื่อยแหละ
 
- คุยกับมัน ท่านจะคุยได้เป็นชั่วโมงเป็นวัน เป็นวรรคเป็นเวร 
 
- แต่คุยเสร็จอาจจะสงสัยว่าทำไมมันรู้ไปถึงชื่อลูกเมียเพื่อนสมัยเด็กและกิ๊ก ของท่านแล้ว  แต่ท่านเพิ่งรู้ว่ามันไปกินอาหารเที่ยงที่ไหนมาแล้วอร่อยแค่นั้นเอง /แต่อย่างน้อยก็ดีจะได้พาเมีย/กิ๊กไปกินร้านใหม่ๆ
 
- บางทีก็เห็นมันพูดคนเดียวด้วยซ้ำไปเหอะ
 
- กินได้ทุกอย่างล่ะนะ พิศดารแค่ไหนก็กินได้ไม่ค่อยเรื่องมาก
 
- พกอุปกรณ์ยิบย่อยเยอะแยะติดตัว  ตั้งแต่มีดพก ปืนพกพา คอมพิวเตอร์เครื่องเล็ก  แท่งเหล็ก แท่งถ่าน เหรียญเงิน และขวดน้ำพลาสติก  ฯลฯ
 
- ตะลอนไปทั่วคราทอส  อาจจะเจอมันที่มุมใดสักมุมก็ได้นะ
 
- ก็ประมาณนั้นแล.....
 
 
 
 
 
 
สิ่งที่ต้องการขโมยที่สุด (พร้อมภาพประกอบ)
 
 
เมเลค - ต้องมีภาพประกอบด้วยเหรอ
 
? - อาหะ
 
เมเลค - ก็ได้.....
 
เมเลค - /ขมวดคิ้ว หยิบกระดาษพื้นดำและปากกาหมึกขาวมาขีดไปมาอยู่ร่วมห้านาที
 
 
 
.
 
 
.
 
 
.
 
 
.
 
 
.
 
 
 
เมเลค - นี่ล่ะ
 
 
 
 
 
 
 
 
 
? - ............................อันไหนนะ
 
เมเลค - /ชี้เครื่องหมายคำถาม/ 
 
? - /กุมขมับ/ มันไม่ใช่คำตอบนะ
 
เมเลค - นั่นคำตอบ /พยักหน้าแสดงความจริงจัง
 
? - /ใช้สองมือช่วยกันกุมขมับ ก่อนวางมือลงอย่างคนปลงได้/  ถามได้ไหมว่าแค่เครื่องหมายคำถามอันเดียวทำไมใช้เวลานานนัก
 
เมเลค -  คิดภาพแต่งขอบกระดาษอยู่น่ะ / ตอบกลับอย่างร่าเริง
 
? - ................./แดรกจุด
 

 
 
แผนการหนีเมื่อถูกจับได้อย่างน้อย 3 แผน
 
1. ใช้แท่งเหล็ก
 
2. ใช้แท่งถ่าน
 
3. ใช้ขวดน้ำ
 
4. (แถม) ใช้ขาสองข้าง และมือช่วยเล็กน้อย 
 
 
 
 
บัตรเครดิต
 
 
 
 
 
 
 
 
 
ติดต่อ : twitter , ems

[EBF][Lehm] Warning of the imposter : last part

เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
 
 
 
 
 *export from x
----------------------------------------------------------------------------------
 
 
From Main event : [Warning!] "Unknown"
 
 
 
Lehm Leisel
#3136
 
 
 
 
 
 
 
Previous
 
 
 
 
(suggest reading the 1st and 2nd part before)
 
 
 
 
 
And
 
now the last one
 
 
 
 
 
 
 
Warning of the imposter : last part
 
 
 
 


  
 
 

  

And that's the end of
"Warning of the imposter"





---------------------------------------------------------------------

::Summary::

Lehm leisel's curse was revealed 
1 girl dead
 Lehm leisel  has travelled to the north
 2 people was seen

---------------------------------------------------------------------


รายละเอียดคำสาปของเลห์ม

- ถูกสาปด้วยคำสาป "ให้ความตายของเจ้า ตกไปยังผู้ที่รักที่สุด"
- หากถูกทำร้ายจนถึงตาย ใช้เวลาครู่หนึ่ง บาดแผลและความตายจะไปยังคนที่รักที่สุดในตอนนั้น
- หลังจากนั้นร่างกายจะกลับมาอยู่ในสภาพก่อนโดนสาป
- คนที่รักที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นความรักเชิงชู้สาว (กรณีนี้ไม่ได้ต้อยเด็ก)

  
---------------------------------------------------------------------








จบ



...








จบแล้ว OTL
/นอนแผ่หมดแรง








สารภาพว่าตอนแรกกำลังเบลอๆเกือบเลิกเล่น ebf ไปแล้ว
คือชั่งใจนานมากว่าจะตัดพลอตไปทำออริดีหรือเปล่า
ระหว่างคิด....พอดีเจอเวนท์อันโนน....แล้วแบบทนไม่ได้...พลอตผุด
ก็เลยวาด..เลยเขียน
สุดท้ายเลยกลับมาเล่นใหม่แบบเต็มตัว 555
ตอนแรกที่คิดพลอต  ไม่คิดว่าจะทำเสร็จหรอกนะ...
คิดว่าอย่างดีก็ทำได้แค่พาร์ทแรกแหละ...
จนตอนร่างเนมสองพาร์ทหลังยามเวื้อย 6 หน้าเสร็จ ก็ไม่คิดว่าจะวาดเสร็จ...
คือ.....มันยาว แล้วปรกติไม่มีความอดทนทำอะไรนานๆ
แต่มันก็เสร็จ....(แม้หลังๆจะเริ่มเกรียม)




ก็....ดีใจนะ
ดีใจมากๆเลย
แม้จะโคตรปวดหลังเลย OTL /แก่แระ



ขอบคุณทุกคนที่ตามอ่านและฟังการบ่นมาจนถึงตอนนี้  
เจอกันใหม่เอนทรีหน้าจ้ะ