เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
*export from x
---------------------------------------------------------------
From Winterfell's main event 01 : News of Wildlings
Devine, the warrior of the north
GUEST
---------------------------------------------------------------
Q :
มีผู้พบเห็นคนเถื่อนบริเวณรอบตัวเมืองหากฟังผ่านๆก็คงดูเหมือนข่าวเลื่อนลอย
แต่ชีวิตและทรัพย์สินของผู้คนในเมืองก็ไม่ใช่สิ่งที่จะปล่อยปละละเลยใน
สถานการณ์เช่นนี้ ท่านจะทำอย่างไร
Choices :
1. ออกไปสำรวจ หรือส่งคนออกไปทันที
2. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเรื่องที่ได้ยินมาเสียก่อน
3. ไม่สนใจและทำตามหน้าที่ของตนต่อไป
2. ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของเรื่องที่ได้ยินมาเสียก่อน
3. ไม่สนใจและทำตามหน้าที่ของตนต่อไป
The answer is ....................
---------------------------------------------------------------
ดีไวน์ออกเวรพอดีในตอนที่เรเวนตัวหนึ่งบินกลับมายังหอสื่อสาร
นัก รบหนุ่มมองนกสีดำร่อนลงจากฟ้าและหายเข้าไปในกำแพงแกรนิตสูงตระหง่าน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อคำนวณเวลาไปกลับของจดหมายฉบับล่าสุด เท้าทั้งสองเปลี่ยนจุดหมายปลายทางมุ่งตรงไปยังที่พักของเมสเตอร์ลูเธอร์ เพื่อพบว่านั่นไม่ใช่จดหมายสำหรับตัวเขาเอง หากแต่เป็นของลอร์ดสตาร์ค และอาจจะอีกหลายคนในวินเทอร์เฟล
"พี่น้องที่ผากำแพงเตือนเราเรื่องการบุกรุกของคนเถื่อนจากทางเหนือ" ชายชรากล่าวเรียบๆ เมื่อเห็นว่าใครอยู่ด้านหลังประตูห้องของตน
หน่วย พิทักษ์ราตรีอยู่ห่างจากที่นี่ไปกว่าหลายร้อยไมล์ หรือพูดให้ถูกยิ่งขึ้นคือสูงขึ้นไปจนสุดเขตแดนเวสเทอรอส ในดินแดนที่หิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ดีไวน์เคยเห็นพวกเขาบางส่วน...ส่วนที่น่าจะเป็นหัวหน้าหมู่ของเหล่ากา ยามเดินทางผ่านวินเทอร์เฟลเพื่อลงไปยังเมืองที่ต่ำกว่าเบื้องล่าง เตรียมเสบียงและเฟ้นหาผู้คนที่จะไปยืนยามในที่ๆไม่มีผู้ใดใฝ่ฝันถึง พวกเขายืนหยัดต่อสู้กับความหนาวเย็น แผลหิมะกัด และความโดดเดี่ยวในยามค่ำคืน ปกป้อง 'ทางใต้' จากคนเถื่อนและสิ่งอื่นๆที่แปลกประหลาดและยิ่งใหญ่กว่านั้น
เนื่อง จากสิ่งประหลาดดังกล่าวไม่มีผู้พบเห็นและหลักฐานการคงอยู่มากว่าร้อยปี แล้ว....เห็นได้ชัดว่างานของบุรุษชุดดำดูจะจำกัดอยู่กับแค่ตัวปัญหาพวกแรก ...กับที่ดินในเดอะกิฟท์ที่พวกเขาต้องดูแล
"ฟังดูไม่ใช่งานใหม่สำหรับพวกเขา" ดีไวน์ให้ความเห็นเรียบๆ
"ไม่ ใช่สำหรับเขา แต่เป็นพวกเรา" เมสเตอร์ลูเธอร์เอ่ยตอบ "อีกาแสนทะนงจะไม่แจ้งข่าวหรอก ถ้าพวกนั้นคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยและสถานการณ์ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี เราต้องไม่ลืมว่ามีรูเล็กๆอีกมากที่ผากำแพง และพี่น้องชุดดำของเราก็มีจำนวนน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับช่องว่างทั้งหมด นั่น" ชายชราขยายความพร้อมกับรอยยับย่นที่เพิ่มขึ้นบ่นหน้าผาก อันเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเขาไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่กับเรื่องทั้งหมดนี่
"ท่านเคยบอกว่าข่าวจากกำแพงจะมาถึงเราในสองวัน ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมพวกเขาคงแจ้งมาแล้ว"
"อย่าง ล่าช้าไปสองวันน่ะหรือ...ใช่....แล้วอย่างที่เจ้าเตือน...เรเวนตัวนี้ได้ แจ้งอดีตให้เรารู้แล้ว และบอกว่าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคตเอาเสียเลย"
ชายหนุ่มตอบคำด้วยความเงียบ...ซึ่งบ่งบอกว่าเขามีความเห็นไม่ต่างกัน
"ข้อ ดีข้อหนึ่งคืออย่างน้อยเราก็จะไม่ช้าไปกว่านี้ ข้าจะไปแจ้งข่าวให้ท่านลอร์ดทราบ ส่วนเจ้าก็ไปพักผ่อนเสีย และหากมีข่าวน่าสนใจใดลอยมากับลมล่ะก็ อย่าลืมบอกข้าด้วยล่ะเจ้าหนุ่มดีไวน์"
เจ้าของชื่อพยักหน้ารับคำ เขาถอยหลบเพื่อเปิดทางให้อีกฝ่ายเดินออกพ้นประตูห้อง และเป็นผู้จัดการปิดมันเสียเรียบร้อยเมื่อเมสเตอร์ชราสาวเท้าจากไป นักรบหนุ่มไม่ได้เสียเวลาให้กับเรื่องอื่นใดอีก เขาตรงกลับไปยังที่พักของตนเพื่อพักผ่อนร่างกายให้พร้อมก่อนจะถึงเวลาเวร ครั้งหน้า ซึ่งจะมาถึงในอีกไม่นานนัก
นัก รบหนุ่มมองนกสีดำร่อนลงจากฟ้าและหายเข้าไปในกำแพงแกรนิตสูงตระหง่าน เขาขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อคำนวณเวลาไปกลับของจดหมายฉบับล่าสุด เท้าทั้งสองเปลี่ยนจุดหมายปลายทางมุ่งตรงไปยังที่พักของเมสเตอร์ลูเธอร์ เพื่อพบว่านั่นไม่ใช่จดหมายสำหรับตัวเขาเอง หากแต่เป็นของลอร์ดสตาร์ค และอาจจะอีกหลายคนในวินเทอร์เฟล
"พี่น้องที่ผากำแพงเตือนเราเรื่องการบุกรุกของคนเถื่อนจากทางเหนือ" ชายชรากล่าวเรียบๆ เมื่อเห็นว่าใครอยู่ด้านหลังประตูห้องของตน
หน่วย พิทักษ์ราตรีอยู่ห่างจากที่นี่ไปกว่าหลายร้อยไมล์ หรือพูดให้ถูกยิ่งขึ้นคือสูงขึ้นไปจนสุดเขตแดนเวสเทอรอส ในดินแดนที่หิมะปกคลุมตลอดทั้งปี ดีไวน์เคยเห็นพวกเขาบางส่วน...ส่วนที่น่าจะเป็นหัวหน้าหมู่ของเหล่ากา ยามเดินทางผ่านวินเทอร์เฟลเพื่อลงไปยังเมืองที่ต่ำกว่าเบื้องล่าง เตรียมเสบียงและเฟ้นหาผู้คนที่จะไปยืนยามในที่ๆไม่มีผู้ใดใฝ่ฝันถึง พวกเขายืนหยัดต่อสู้กับความหนาวเย็น แผลหิมะกัด และความโดดเดี่ยวในยามค่ำคืน ปกป้อง 'ทางใต้' จากคนเถื่อนและสิ่งอื่นๆที่แปลกประหลาดและยิ่งใหญ่กว่านั้น
เนื่อง จากสิ่งประหลาดดังกล่าวไม่มีผู้พบเห็นและหลักฐานการคงอยู่มากว่าร้อยปี แล้ว....เห็นได้ชัดว่างานของบุรุษชุดดำดูจะจำกัดอยู่กับแค่ตัวปัญหาพวกแรก ...กับที่ดินในเดอะกิฟท์ที่พวกเขาต้องดูแล
"ฟังดูไม่ใช่งานใหม่สำหรับพวกเขา" ดีไวน์ให้ความเห็นเรียบๆ
"ไม่ ใช่สำหรับเขา แต่เป็นพวกเรา" เมสเตอร์ลูเธอร์เอ่ยตอบ "อีกาแสนทะนงจะไม่แจ้งข่าวหรอก ถ้าพวกนั้นคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยและสถานการณ์ทุกอย่างจะเรียบร้อยดี เราต้องไม่ลืมว่ามีรูเล็กๆอีกมากที่ผากำแพง และพี่น้องชุดดำของเราก็มีจำนวนน้อยเหลือเกินเมื่อเทียบกับช่องว่างทั้งหมด นั่น" ชายชราขยายความพร้อมกับรอยยับย่นที่เพิ่มขึ้นบ่นหน้าผาก อันเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเขาไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่กับเรื่องทั้งหมดนี่
"ท่านเคยบอกว่าข่าวจากกำแพงจะมาถึงเราในสองวัน ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมพวกเขาคงแจ้งมาแล้ว"
"อย่าง ล่าช้าไปสองวันน่ะหรือ...ใช่....แล้วอย่างที่เจ้าเตือน...เรเวนตัวนี้ได้ แจ้งอดีตให้เรารู้แล้ว และบอกว่าเราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับปัจจุบันและอนาคตเอาเสียเลย"
ชายหนุ่มตอบคำด้วยความเงียบ...ซึ่งบ่งบอกว่าเขามีความเห็นไม่ต่างกัน
"ข้อ ดีข้อหนึ่งคืออย่างน้อยเราก็จะไม่ช้าไปกว่านี้ ข้าจะไปแจ้งข่าวให้ท่านลอร์ดทราบ ส่วนเจ้าก็ไปพักผ่อนเสีย และหากมีข่าวน่าสนใจใดลอยมากับลมล่ะก็ อย่าลืมบอกข้าด้วยล่ะเจ้าหนุ่มดีไวน์"
เจ้าของชื่อพยักหน้ารับคำ เขาถอยหลบเพื่อเปิดทางให้อีกฝ่ายเดินออกพ้นประตูห้อง และเป็นผู้จัดการปิดมันเสียเรียบร้อยเมื่อเมสเตอร์ชราสาวเท้าจากไป นักรบหนุ่มไม่ได้เสียเวลาให้กับเรื่องอื่นใดอีก เขาตรงกลับไปยังที่พักของตนเพื่อพักผ่อนร่างกายให้พร้อมก่อนจะถึงเวลาเวร ครั้งหน้า ซึ่งจะมาถึงในอีกไม่นานนัก
+++
"เสบียง ส่วนหนึ่งถูกขโมย และดูเหมือนจะมีใครสักคนสนุกในการเผาทำลายไร่ของลอร์ดอุมเบอร์ใต้จมูกของ เขา" กริเซลเป็นคนบอกเล่าข่าวลือให้เขาฟังด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ท่ามกลางเสียงอึกทึกจอแจของห้องอาหารระหว่างที่ทั้งคู่ลงมือกินมื้อเย็น
"พวกเขาจะเผาไร่ไปทำไม?" ชายหนุ่มตั้งข้อสังเกต
"ข้า ไม่ใช่คนเถื่อน จะไปเข้าใจเหตุผลของพวกนั้นได้ยังไง" กริเซลไหวไหล่ขณะตอบ ก่อนจะส่งเบคอนชิ้นหนึ่งเข้าปาก "แต่ก็อย่างที่เจ้าว่า ข้าก็สงสัยอยู่เหมือนกัน ท่านลอร์ดพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้รึเปล่า?"
ดี ไวน์ส่ายหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงปฏิเสธ "ข้ายังไม่เจอท่านหลังจากข่าวทั้งหมดนี่ และดูเหมือนยังไม่มีคำสั่งอะไรออกมาหลังเมสเตอร์นำข่าวจากกำแพงไปบอกท่าน เมื่อเช้า"
“อืม...” เสียงตอบรับงึมงำอยู่ในคอ หญิงสาวจัดการอาหารส่วนของตนต่อด้วยท่าทีครุ่นคิด เขาจึงทำสิ่งเดียวกันไปอย่างเงียบๆ ไม่มีบทสนทนาอะไรอีกแม้หลังชายหนุ่มหยิบแก้วของพวกเขาไปเติมเหล้ารัมจนเต็ม แล้วเอากลับมาวางใหม่ ดีไวน์กำลังคิดว่าเขาควรเอาจานไปเก็บก่อนสักรอบรึเปล่า และวางช้อนในมือลงพอดีเมื่ออีกคำถามถูกส่งมาให้
"เจ้าเข้าเวรอีกครั้งเมื่อไหร่?"
"พรุ่งนี้เช้า"
กริ เซลรับฟังคำตอบโดยไม่เอ่ยอะไร หล่อนพยักหน้าและจมเข้าไปในความคิดของตัวเองอีกครั้ง ดีไวน์ยกแก้วของตนขึ้นดื่ม เขาอยากเอ่ยปากบอกอีกฝ่ายว่าเขารู้ว่าเธอจะทำอะไร และไม่เห็นด้วยในเรื่องนั้นสักเท่าไหร่ แต่ก็เช่นกันที่เขารู้จักหญิงสาวนานพอ และดีพอเกินกว่าจะห้ามในสิ่งที่เจ้าหล่อนตัดสินใจลงไปแล้ว
"อย่าฝืน...และถ้าเป็นไปได้...ชวนเลดี้มอสซาวิคไปเป็นเพื่อนในสิ่งที่เจ้ากำลังจะทำ"
กริ เซลวางส้อมในมือ เงยหน้าขึ้นจากจานเปล่าของตนเอง หล่อนเอ่ยปากบ่นไม่จริงจังนัก "ข้าชักเบื่อเวลาเจ้าเป็นหนอนในไส้ของข้าซะแล้วล่ะ"
ดีไวน์ตอบรับคำพูดนั้นด้วยรอยยิ้มจางๆ
+++
แม้ข่าวลือจะไม่ ใช่เรื่องน่าเชื่อถือ แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่ลอร์ดแห่งวินเทอร์เฟลจะเพิกเฉยต่อข่าวจากทั้งผากำแพง และลาสเฮิร์ธ สองวันถัดมาสตาร์คส่งนักรบจำนวนหนึ่งขึ้นเหนือ เช่นเดียวกับที่เลดี้มอสซาวิคนำคนอีกส่วนผ่านฮันเทอร์เกทเข้าไปยังไพรหมาป่า หลังจากพรานซึ่งอาศัยในนั้นได้แจ้งข่าวมายังปราสาท เรื่องที่เขาสงสัยว่าตนพบคนเถื่อนหกคนขณะออกล่าสัตว์
ดีไวน์มองคน อื่นๆควบม้าผ่านประตูในเวลาย่ำรุ่งขณะที่เขาสวมเสื้อคลุมเดินไปยังลานฝึก ซ้อม ชายหนุ่มไม่เห็นกริเซลในลานรวมถึงที่อื่นๆในวินเทอร์เฟลมาสองวันแล้ว และสันนิษฐานว่าเธอคงออกไปหาข่าวทางใดทางหนึ่ง เขาใช้เวลาไปกับการยิงธนูให้เข้าเป้าและซ้อมฟันดาบกับนักรบอีกสองสามคน ก่อนจะเข้าเวรเพื่อทำหน้าที่ในยามสาย ไม่มีคำถามใดออกจากปากที่ถนัดแต่ขานรับคำสั่ง นักรบหนุ่มเพียงแต่มีตัวตนอันนิ่งสงบเช่นเคยอยู่ข้างกายลอร์ดแห่งวิ นเทอร์เฟล เขารู้ว่างานของเขาอยู่ที่ใดและไม่กระตือรือร้นที่จะออกไปข้างนอก แม้จะปฏิเสธไม่ได้ว่าตนเองตั้งใจฟังแค่ไหนเมื่อเลดี้เฟนิสเอ่ยถามบิดาตน เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ดีไวน์กำลังจะจบงานของเขาในเช้าวันถัด มา เขาตั้งใจจะไปหาเพื่อน...และอาจจะเมสเตอร์อีกคนเพื่อถามถึงข่าวอะไรก็ตามที่ พวกเขาอาจจะได้มาอยู่ทีเดียว เมื่อลอร์ดเฟอร์ดินานด์เอ่ยสั่งให้เขาอย่าเพิ่งออกเวร และตามนายของพวกเขาทั้งหมดไปยังคุกใต้ดิน
กลิ่นของห้องขัง เป็นสิ่งไม่น่าพิศมัย มันอับทึบเพราะอากาศที่ไม่ถ่ายเท หนาวเยือกเพราะเป็นสถานที่ไม่กี่แห่งของปราสาทที่ห่างไกลจากท่อส่งน้ำร้อน และยิ่งแย่เมื่อรวมกับกลิ่นของเลือดสดใหม่
“มันไม่ยอมพูด” เสียงเอ่ยรายงานเรียบๆดังจากปากของมาเทล ฮอร์นวูด ดีไวน์จำเขาได้ดีพอๆกับคนอื่น ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่เพิ่งได้รับการยอมรับเป็นนักรบเต็มตัวไม่นานนัก เขาเป็นคนโผงผางเลือดร้อน และยิ่งกระเหี้ยนกระหือรือกับการสอบปากคำครั้งแรกของตนเอง
ดีไวน์ มองผ่านมือที่ถือแส้สีดำไปยังอีกฟากของผนังห้อง ร่างหนึ่งถูกล่ามติดอยู่ตรงนั้นด้วยสายโซ่ใหญ่ที่แขนและขา ผมสีน้ำตาลแดงเหมือนสนิมเหล็กจับกันเป็นกลุ่มและเปียกโชกล้อมกรอบใบหน้าม่วง ช้ำ รอยแผลสดทิ้งตัวเป็นทางยาวหลากหลาย เหมือนภาพศิลป์ของจิตรกรที่ไร้ซึ่งความรื่นรมย์
แวบหนึ่งที่เขาสบตากับเจ้าของร่างนั้น ดวงตาสีดำฉายแววเดียวกับเสือที่ครั้งหนึ่งเขาเคยเห็นในไพรหมาป่า ...บอบช้ำ...ทว่ายังทะนง
เฟอร์ดิ นานด์ สตาร์คพยักหน้าเป็นเชิงตอบรับคำรายงาน ลอร์ดแห่งวินเทอร์เฟลไม่ซักไซ้อะไรเพิ่มเติม และไม่แสดงความเห็นใดๆไม่ว่าจะในทางดีหรือแย่กับงานครั้งแรกของชายหนุ่มผู้ รับหน้าที่สอบปากคำ ดีไวน์ไม่ลืมว่านายของเขาเป็นคนออกคำสั่งเจาะจงให้มาเทลทำหน้าที่นี้ด้วยตน เอง และคำสั่งเช่นนั้นย่อมมีเหตุผลบางอย่าง แน่นอนว่าเขาไม่คิดจะถาม และไม่มีโอกาสจะเอ่ยปากถามเมื่อร่างสูงสาวเท้าเข้าไปใกล้ ‘นักโทษ’ ก่อนหยุดในระยะใกล้พอที่ระดับเสียงปรกติจะส่งไปได้พอดี
คนทำหน้าที่ เป็นองครักษ์ก้าวตามไปยืนในตำแหน่งไม่ต่างกันนัก ห่างพอที่คมดาบจะจ่อคอร่างซึ่งถูกมัดตรึงนั่นได้ทันทีเมื่อความจำเป็นใดๆก็ ตามมาถึง
"เจ้าชื่ออะไร?" เสียงทุ้มดุดันสะท้อนก้องผนังหิน
"สนใจด้วยรึไง?" คนเถื่อนตอบห้วนสะบัดเสียง ริมฝีปากแยกเขี้ยวอันเต็มไปด้วยคราบเหลืองอย่างหยามหยัน
ดวง ตาสีฟ้าอ่อนยังคงจับจ้องไปยังอีกฝ่ายไม่บ่งบอกอารมณ์ ถ้อยคำเรียบๆเอ่ยต่อราวกับไม่ได้ยินคำยอกย้อนนั่น "ข้าได้ยินเจ้าบอกว่าจะไม่มีวันพูดอะไร"
ชายจากเหนือกำแพงเงยหน้าขึ้น ถ่มน้ำลายใส่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าตนพลางเอ่ยวาจาอย่างอวดดี "เป็นโชคของข้าที่จ่าฝูงหมาหูไม่หนวก"
“เจ้า!” เสียงที่ขัดขึ้นเป็นของฮอร์นวูด หากแต่เขาถูกทำให้เงียบลงเมื่อนัยน์ตาคมปลาบถูกส่งไปให้โดยนายของตัวเอง
ผู้ ปกครองทิศเหนือหันกลับมายังคู่สนทนา เขาเมินเฉยต่อท่าทีหยาบคาย คิ้วสีเข้มเพียงขมวดเล็กน้อยเหมือนจะแสดงความฉงนสงสัย "แม้ต้องแลกด้วยความตาย....?"
ร่างที่บอบช้ำแค่นเสียงหัวเราะหลังได้ยินคำถามนั่น "อิสรชนรู้จักความตายดีกว่าพวกเจ้านัก...คนใต้"
"ของคนที่มากับเจ้า....?" นายของเขาต่อประโยคด้วยท่าทีนิ่งสงบไม่ต่างจากเดิม
สี หน้าอีกฝ่ายที่สะท้อนจากคบไฟดูบิดเบี้ยวเปลี่ยนไป เสียงโซ่ดังกราวเมื่อร่างที่เคยนิ่งกระชากตัวขึ้นจากกำแพงและดูเหมือนจะพุ่ง โถมมาข้างหน้า "ไอ้พวกสถุล!!!" ริมฝีปากที่บวมช้ำคำรามด้วยแรงโทสะเสียมากกว่าจะเป็นความเจ็บปวด ดีไวน์หยุดเขาด้วยคมดาบที่จ่อไปที่ลำคอ เหล็กหนาแหลมคมสร้างบาดแผลเล็กๆบนผิวที่สกปรกไปด้วยคราบไคล เรียกให้เลือดสีแดงไหลซึม
"เห็นได้ชัดว่าเรายังพอมีอะไรอยู่บ้าง” ลอร์ดสตาร์คว่าพลางขยับมือเป็นสัญญาณให้เขาลดดาบลง นายแห่งวินเทอร์เฟลหันหลังให้แววตาชิงชังของอีกฝ่าย และออกคำสั่งต่อมาให้กับผู้เป็นองครักษ์ของตนเอง
“ดีไวน์ ข้าให้เจ้าออกเวรคุ้มกันข้าแล้วตอนนี้ แต่เสียใจด้วยที่เจ้ามีงานต้องทำต่อ ปลดโซ่เขาและพาไปอาบน้ำ ทำแผลให้เขาเสียด้วย ถ้ามันแย่นักก็ตามเมสเตอร์มาช่วยเจ้าจัดการมัน ข้าไม่อยากให้พวกพ้องคนใหม่ของเราต้องตายเพราะแผลติดเชื้อ”
ชายหนุ่มรับคำด้วยการค่อมหัวลง
“ข้าไม่ใช่พวกพ้องของเจ้า!!” คนเถื่อนเชิดคางขึ้น ตะคอกแย้งกลับเสียงลั่นราวกับคำนั้นน่ารังเกียจเสียยิ่งกว่าคมแส้
ดวง ตาสีฟ้าอ่อนปราดไปเพียงเล็กน้อยพร้อมกับเสี้ยวหน้าของบุรุษผู้เป็นใหญ่แห่ง แดนเหนือ “เจ้ากำลังจะเป็น และไม่ต้องกังวลศักดิ์ศรีของตนในเรื่องนั้นหรอก เพราะเจ้าไม่ใช่คนที่เลือกมัน” นั่นเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนที่ร่างสูงใหญ่จะเคลื่อนไปยังประตู ทิ้งองครักษ์ของตนไว้กับเพื่อนคนใหม่ในแสงสลัวของคุกใต้ดิน
+++
ดีไวน์รู้สึกพอใจนักที่ตนเองคุ้นเคยกับความเงียบ
เสียง น้ำสาดลงเป็นครั้งที่ยี่สิบเปลี่ยนพื้นแห้งสะอาดของห้องอาบน้ำให้เจิ่งนองไป ด้วยของเหลวสีคล้ำสกปรก มันเป็นส่วนผสมของดินโคลน ฝุ่น และเลือดจากร่างคนใต้อาณัติคนใหม่ของลอร์ดแห่งวินเทอร์เฟล ร่างนั้นสงบลงหลังจากดิ้นรนอย่างไร้เหตุผลอยู่พักใหญ่ และฝากรอยแผลฟกช้ำจำนวนไม่น้อยบนใบหน้าและแขนทั้งสองข้างของเขาเรียบร้อย แล้ว
ผู้เป็นนักรบวางถังน้ำลงไว้ข้างตัว ประเมินสภาพของบุรุษตรงหน้าก่อนตัดสินใจว่าน่าจะเริ่มจัดการขั้นตอนต่อไปได้
“เลิก พยายามจะฆ่าข้าด้วยการทำให้จมน้ำตายแล้วรึไง” เสียงนั้นเอ่ยแกมประชดเป็นครั้งแรกหลังการต่อสู้อย่างไร้บทสนทนาที่กินเวลา กว่าสองชั่วยาม
ดีไวน์ตอบกลับด้วยการขมวดคิ้วน้อยๆขณะโยนผ้าให้อีกฝ่าย “ข้านึกว่าคนนอกกำแพงอาบน้ำเป็น”
“ข้า ทำเป็น!” อีกฝ่ายเอ่ยลอดไรฟัน ดวงตาสีดำมองอย่างไม่สบอารมณ์ อย่างไรก็ตามดีไวน์ค่อนข้างพอใจที่ฝ่ายนั้นให้ความร่วมมือเป็นครั้งแรกหลัง การพบกัน แม้นั่นจะเป็นแค่การเอาผ้าเช็ดใบหน้าของตัวเองก็ตามที
นัก รบหนุ่มยืนมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่งเสื้อผ้าที่แห้งกว่าไปให้ เขากอดอกพิงผนังกำแพงหินเงียบๆ สังเกตคนที่รับมันได้พอดิบพอดีทั้งที่เขาตั้งใจโยนไปให้ตอนไม่ทันตั้งตัว เมื่อล้างผิวกายให้สะอาดมากขึ้น ชายหนุ่มมองเห็นรอยแผลเป็นเก่าจำนวนมากบนร่างของอีกฝ่าย ซึ่งยืนยันเรื่องที่ว่าการใช้ชีวิตของคนตรงหน้าเมื่อก่อนไม่เคยง่าย และบ่งบอกถึงความสามารถในการต่อสู้จากกล้ามเนื้อทั้งหมดนั่น
“นาย ของเจ้านิยมเลี้ยงดูเชลย?” คนเถื่อนออกปากถามขณะผลัดเปลี่ยนเศษผ้าที่ใส่อยู่ออก แม้จะไม่เห็นอารมณ์จากคนที่หันหลังให้ แต่ความเหยียดหยันในน้ำเสียงอย่างไม่คิดปกปิดก็เด่นชัดเสียจนเขาไม่ต้อง สงสัยในเรื่องนั้น
“โทษประหารเป็นที่นิยมมากกว่าในแดนที่อาหารการ กินไม่อุดมสมบูรณ์” นักรบหนุ่มเอ่ยตอบ เขารอจนอีกฝ่ายสวมกางเกงเรียบร้อยจึงพูดต่อ “เสร็จแล้วก็มาทางนี้ ข้าจะทำแผลให้”
บุรุษจากเหนือกำแพงหันกลับมาประจันหน้ากับนักรบแห่ง วินเทอร์เฟล สองเท้ายืนนิ่งอยู่กับที่อย่างไม่คิดจะก้าวตาม เขาเมินเฉยให้คำล่าสุดแล้วกล่าวตอบประโยคก่อนหน้านั้น “ข้ารู้จักการฆ่าเพื่อแย่งชิงอาหารมากกว่าเจ้าแน่คนใต้” ริมฝีปากที่ล้างเลือดเกอะกรังออกหมดแล้วแยกเขี้ยวเป็นรอยยิ้มเมื่อเสริม “ความคิดที่จะเลี้ยงอิสรชนให้เชื่องเป็นเรื่องโง่เง่า และความใจอ่อนไม่มีประโยชน์อะไรนอกจากทำให้ตายเร็ว”
ดีไวน์ไม่ได้ขยับไปจากที่ของตนเช่นกันขณะที่ออกความเห็น “ข้าไม่คิดว่าลอร์ดสตาร์คมีเมตตามากไปกว่าผู้ปกครองคนอื่น”
“นั่นเพราะพวกเจ้าอยู่อย่างสุขสบายกันมากไปน่ะสิ”
ข้า รับใช้ของนายแห่งวินเทอร์เฟลส่ายหน้า “ท่านลอร์ดเคยมีม้าประจำตัวที่เอ็นข้อเท้าบาดเจ็บ ม้าฝีเท้าดีทีเดียว เมสเตอร์บอกว่ามันมีโอกาสจะกลับมาใช้งานได้ในครึ่งปี นายท่านจึงไม่ได้สั่งฆ่ามัน”
“โอ....ช่างเป็นผู้ปกครองที่เปี่ยมด้วยเมตตา” อีกฝ่ายออกเสียงกล่าวชมอย่างเสแสร้ง
“คนดูแลม้าได้รับคำสั่งให้ดูแลมันอย่างดี” เขากล่าวต่อเรียบๆ “ หนึ่งเดือนต่อมา ข้าเป็นผู้รับคำสั่งให้เชือดมันทิ้ง”
คนเถื่อนจ้องมองเขา ปากนั้นปิดสนิท ไม่มีคำอื่นใด
“ทางเหนือแร้นแค้นมากเกินกว่าจะเลี้ยงสิ่งไร้ประโยชน์ เจ้าเองก็เข้าใจดี ”
“สิ่งที่ข้ารู้น่ะ...” อีกฝ่ายลากเสียง “คือเจ้าขู่คนได้ห่วยแตก”
“ใช่” คราวนี้ดีไวน์พยักหน้ายอมรับ “ข้าถนัดพูดความจริงมากกว่า”
ความ เงียบกลับมาอีกครั้งเมื่อคนทั้งสองเลือกที่จะสื่อสารด้วยสายตามากกว่าคำพูด หากแต่ครั้งนี้บรรยากาศแบบนั้นไม่ได้คงอยู่นานนัก ใบหน้าของชายเหนือกำแพงหันควับไปยังประตูขณะที่ผู้เป็นนักรบยันตัวขึ้นตรง และสาวเท้าไปที่นั่น ซึ่งเด็กชายคนหนึ่งยืนรออยู่ด้วยตัวสั่นเทาพร้อมข้อความสำหรับพวกเขาทั้งคู่
“ท่าน ลอร์ดให้ข้าบอกพวกท่าน” เด็กชายอ้าปากค้างไว้พักเหมือนพยายามขบคิดสิ่งที่ถูกบังคับให้ท่องจำ “ว่านายท่านมีประสงค์เชิญสหายผู้ไม่เปิดเผยตัวตนไปยังงานเลี้ยงสังสรรค์ ท่านหวังว่าเขาจะพร้อมและสบายดีพอที่จะเดินเคียงข้างเพื่อนสาวของตนในวัน รุ่งขึ้น” เด็กชายเอ่ยรัวเร็วด้วยสีหน้าลุกลี้ลุกลน เขายังไม่โตและฉลาดพอที่จะอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้
“เจ้าส่งข่าว เรียบร้อยแล้ว และข้าจะบอกนายท่านตามนั้น” ดีไวน์พยักหน้าด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนไป เขาล้วงมือไปในกระเป๋าและตอบแทนเด็กชายด้วยเหรียญทองแดงซึ่งทำให้อีกฝ่ายมี สีหน้าดีขึ้น เจ้าตัวเล็กละล่ำละลักขอบคุณก่อนวิ่งจากไปในทางเดียวกับที่มา
“ข้าอาจจะเลือกพูดอีกอย่าง ว่าข้าไม่รู้เรื่องการเชื้อเชิญอะไรเลย และถูกทารุณอย่างโหดร้ายภายใต้การดูแลของเจ้า”
ผู้ เป็นนักรบเลิกคิ้ว มองอีกฝ่ายที่เหมือนจะภูมิใจในแผนการเล็กๆของตัวเอง “ดูเหมือนนั่นจะเป็นสาเหตุที่ท่านลอร์ดเลือกข้าให้ทำงานนี้ มีตัวเลือกไม่มากหากท่านไม่อยากสงสัยในเรื่องนั้น”
ดีไวน์ไม่สนใจ อีกฝ่ายที่สบถกับตนเองและกัดฟันอย่างไม่พอใจ เขาเสียเวลามากแล้ว และเหน็ดเหนื่อยมากเสียยิ่งกว่าตอนออกรบ ไม่ใช่วิสัยของเขาเลยที่จะเล่นเกมฝีปากกับใคร “ทีนี้ตาเจ้าเลือกได้แล้วว่าจะทำแผลแล้วทำตัวเป็นแขก หรือจะปล่อยให้เพื่อนเจ้าอยู่ในฐานะนั้นคนเดียวในงานเลี้ยงกับคนแปลกหน้า ทั้งวินเทอร์เฟล”
“เหมือนเจ้านายของเจ้าจะบอกว่าข้าไม่มีทางเลือกในเรื่องนั้น” เขาพูดเหมือนคำราม
“เจ้า มีทางเลือก....เหมือนกับที่ม้าตัวหนึ่งมีก่อนมันจะปล่อยเวลาเหล่านั้นทิ้ง เปล่าแล้วตาย” ดีไวน์กล่าวแก้ เขาเน้นย้ำด้วยระดับเสียงเดิมและสีหน้าที่ไม่เคยเปลี่ยนไป “ ใช้มันขณะที่ยังเป็นของเจ้า”
คนเถื่อนเดินผ่านเขาออกไปยังประตู และนั่งลงบนเก้าอี้ใกล้ๆ ที่ซึ่งนักรบแห่งวินเทอร์เฟลได้เอากล่องยาวางลง และเริ่มทำงานต่อไปของตน
End of Winterfell's main event 01
---------------------------------------------------------------
In conclusion
Choose : 3. ไม่สนใจและทำตามหน้าที่ของตนต่อไป
Result : Vit -5%, Money -150
---------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น