หน้าเว็บ

วันพุธที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[EBF][Lehm] Dream

เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ









----------------------------------------------------------------------------------


From Main event :  Nightmare night





Lehm Leisel
#3136










3




2




1






เลห์มได้ยินเสียงของป่า

เขาลืมตา….คิดว่าลืมตาขึ้น….หลังจากผ่านขั้นตอนตอบรับเริ่มแรกของระบบที่เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก  เลห์ม ไลเซลก็จงใจกรอกชื่อตัวเองด้วยภาษาเอชลิค...อย่างที่เขาเรียนรู้มาจากอัลคอร์...ตามที่โปรแกรม DCS บอกให้ทำแล้วเลือกยืนยันตัว  จากนั้นเขาก็มานอนอยู่ตรงนี้  ท่ามกลางทิวทัศน์ยามโพล้เพล้ซึ่งเป็นสถานที่บรรจบกันของป่ารกครึ้มและทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา  

เลห์มถัดตัวลุกขึ้นยืน  รองเท้าคอมแบทคู่เก่าเหยียบใบหญ้าสีเขียวที่รองรับตัวเขาไว้เมื่อครู่  ขณะเดียวกับที่สายตากลอกมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง  ไม่มีอะไร...นอกจากตัวเขาเองที่ยืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้    และเสียงนกที่แว่วเข้าหูเป็นพักๆจากป่าที่ห่างออกไปไม่ไกล

เขาขยับมือไปที่เข็มขัดข้างตัว  สัมผัสเยียบเย็นของปืนพกตอบรับเขาอย่างคุ้นเคยเหมือนกับทุกที   ถัดไปไม่ไกลคือมีดพกที่ไม่เคยห่างตัว ห้อยสงบนิ่งอยู่ในซองประจำที่เดิมของมัน  ซึ่งทำให้พอจะรู้สึกอุ่นใจ

หากนี่เป็นความฝัน….
ความจริงหรือภาพลวง…..นานวันเข้าก็ชักแยกจากกันได้ยากขึ้นทุกที

เลห์ม ไลเซลผละจากความคิดไร้สาระในหัวของตนเอง ก้าวเดินจากจุดที่ยืนอยู่ แม้คำอธิบายก่อนหน้าภารกิจจะเข้าใจยาก แต่เป้าหมายที่ทำให้เขาต้องมายืนอยู่ตรงนี้ก็ชัดเจนดี ตามหาไนท์แมร์ ฆ่า แล้วนำของที่มันอาจจะมีกลับไป เป็นคำสั่งให้ปฏิบัติตามที่ง่ายต่อความเข้าใจของทหารที่ต้องลงมือกระทำ

ทางที่จะเลือกไปเหรอ….แน่อยู่แล้ว

เท้าทั้งสองพาร่างเขาย่ำเข้าสู่พื้นที่ป่า….ไม่มีความลังเลใดๆ



+++++++++++






สีขาวเป็นสีที่ชวนให้สบายใจ  นุ่มนวล และไร้พิษสง  แต่หากมันเป็นสิ่งเดียวที่พบเห็นในคลองสายตาแล้วล่ะก็   มันดูจะเป็นสิ่งที่ชวนให้หงุดหงิดไม่เบา

ภาพตรงหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนทำให้ระลึกได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในโลกปรกติ   สีขาวของหมอกหนาทึบปกคลุมรอบตัว  ทัศนวิสัยเท่ากับศูนย์  อย่างที่ชวนให้นึกว่าถ้าโชคร้ายเกิดเจอสถานการณ์แบบนี้ท่ามกลางสนามรบ  คงไม่วางถูกศัตรูยิงตาย

สิ่งที่ทำได้….ก็คงเป็นอย่างที่คนคนนั้นเคยสอน

มีดสั้นถูกชักออกจากที่อยู่ดั้งเดิม  เขากำมันกระชับด้วยมือขวา แขนทั้งสองข้างถูกใช้ในการเบิกทาง  ราวกับหมอกเบื้องหน้าเป็นพุ่มไม้รกร้างซึ่งจะหายไปเพียงเขาออกแรงตัดทำลาย

ไม่นาน  หมอกสีขาวก็จางหายไป

แทนที่ด้วยเสียงพูดที่ดังขึ้นมา

....



+++++++++++



“งั้นเหรอ…..ดูเหมือนพวกเขาล่ะสินะ”

เขามองนัยน์ตาสีเขียวอมเทาที่หรุบมองต่ำลงตรงหน้า  เสียงของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปจากน้ำเสียงร่าเริงจนน่ารำคาญที่ทำมาตลอด….นิดหน่อย   เลห์มเพียงแต่มองดู  ไม่มีคำพูดใดออกจากปาก  

ไม่ใช่ธุระของเขาที่ต้องใส่ใจเด็กกวนประสาทที่ไม่รู้จัก

แค่ภาพคนตรงหน้าทำให้เขาคิดถึงใครอีกคนนึง

แจ๊คกลับมาพูดเรื่อยเปื่อยเป็นตัวเองในเวลาไม่นาน  เขาฟังแบบปล่อยให้มันลอยผ่านหูไป   จากนั้นเมื่อดูจะถึงเวลาที่สมควรเด็กนั่นก็ส่งของหนึ่งมาให้  ขู่เสียดิบดีว่าห้ามเปิดก่อนจะออกจากที่แห่งนี้ไป

เลห์มตอบสนองมันด้วยการนิ่งเงียบ  ก่อนทุกอย่างจะจบลง  และเขาลืมตาขึ้นจริงๆในโลกอีกแห่งหนึ่ง

















.




...



.....



...........









‘หือม์…...คิดถึงผมด้วยเหรอ…..เป็นคนดีเหมือนเคยเลยนะครับ’






‘ผมเองก็รักเธอนะ  แต่ให้คิดถึงกันขนาดนั้น  สำหรับเธอแล้วออกจะเสี่ยงไปสักหน่อย’






‘ถ้ายังไงล่ะก็….ความคิดพวกนี้  ผมขอลบมันไปก็แล้วกัน’






‘หลับฝันดีนะครับ….เลห์ม…..น้องชายที่น่ารักของผม’
















It's only a mission in dream. which he cannot remember it, totally.






[End of  DCS mission]



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น