เอนทรีนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
----------------------------------------------------------------------------------
Lehm Leisel
#3136
3
2
1
เลห์มได้ยินเสียงของป่า
เขาลืมตา….คิดว่าลืมตาขึ้น….หลังจากผ่านขั้นตอนตอบรับเริ่มแรกของระบบที่เขาไม่ค่อยเข้าใจนัก เลห์ม ไลเซลก็จงใจกรอกชื่อตัวเองด้วยภาษาเอชลิค...อย่างที่เขาเรียนรู้มาจากอัลคอร์...ตามที่โปรแกรม DCS บอกให้ทำแล้วเลือกยืนยันตัว จากนั้นเขาก็มานอนอยู่ตรงนี้ ท่ามกลางทิวทัศน์ยามโพล้เพล้ซึ่งเป็นสถานที่บรรจบกันของป่ารกครึ้มและทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา
เลห์มถัดตัวลุกขึ้นยืน รองเท้าคอมแบทคู่เก่าเหยียบใบหญ้าสีเขียวที่รองรับตัวเขาไว้เมื่อครู่ ขณะเดียวกับที่สายตากลอกมองไปรอบๆอย่างระมัดระวัง ไม่มีอะไร...นอกจากตัวเขาเองที่ยืนอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และเสียงนกที่แว่วเข้าหูเป็นพักๆจากป่าที่ห่างออกไปไม่ไกล
เขาขยับมือไปที่เข็มขัดข้างตัว สัมผัสเยียบเย็นของปืนพกตอบรับเขาอย่างคุ้นเคยเหมือนกับทุกที ถัดไปไม่ไกลคือมีดพกที่ไม่เคยห่างตัว ห้อยสงบนิ่งอยู่ในซองประจำที่เดิมของมัน ซึ่งทำให้พอจะรู้สึกอุ่นใจ
หากนี่เป็นความฝัน….
ความจริงหรือภาพลวง…..นานวันเข้าก็ชักแยกจากกันได้ยากขึ้นทุกที
เลห์ม ไลเซลผละจากความคิดไร้สาระในหัวของตนเอง ก้าวเดินจากจุดที่ยืนอยู่ แม้คำอธิบายก่อนหน้าภารกิจจะเข้าใจยาก แต่เป้าหมายที่ทำให้เขาต้องมายืนอยู่ตรงนี้ก็ชัดเจนดี ตามหาไนท์แมร์ ฆ่า แล้วนำของที่มันอาจจะมีกลับไป เป็นคำสั่งให้ปฏิบัติตามที่ง่ายต่อความเข้าใจของทหารที่ต้องลงมือกระทำ
เลห์ม ไลเซลผละจากความคิดไร้สาระในหัวของตนเอง ก้าวเดินจากจุดที่ยืนอยู่ แม้คำอธิบายก่อนหน้าภารกิจจะเข้าใจยาก แต่เป้าหมายที่ทำให้เขาต้องมายืนอยู่ตรงนี้ก็ชัดเจนดี ตามหาไนท์แมร์ ฆ่า แล้วนำของที่มันอาจจะมีกลับไป เป็นคำสั่งให้ปฏิบัติตามที่ง่ายต่อความเข้าใจของทหารที่ต้องลงมือกระทำ
ทางที่จะเลือกไปเหรอ….แน่อยู่แล้ว
เท้าทั้งสองพาร่างเขาย่ำเข้าสู่พื้นที่ป่า….ไม่มีความลังเลใดๆ
+++++++++++
สีขาวเป็นสีที่ชวนให้สบายใจ นุ่มนวล และไร้พิษสง แต่หากมันเป็นสิ่งเดียวที่พบเห็นในคลองสายตาแล้วล่ะก็ มันดูจะเป็นสิ่งที่ชวนให้หงุดหงิดไม่เบา
ภาพตรงหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วจนทำให้ระลึกได้ว่าเขาไม่ได้อยู่ในโลกปรกติ สีขาวของหมอกหนาทึบปกคลุมรอบตัว ทัศนวิสัยเท่ากับศูนย์ อย่างที่ชวนให้นึกว่าถ้าโชคร้ายเกิดเจอสถานการณ์แบบนี้ท่ามกลางสนามรบ คงไม่วางถูกศัตรูยิงตาย
สิ่งที่ทำได้….ก็คงเป็นอย่างที่คนคนนั้นเคยสอน
มีดสั้นถูกชักออกจากที่อยู่ดั้งเดิม เขากำมันกระชับด้วยมือขวา แขนทั้งสองข้างถูกใช้ในการเบิกทาง ราวกับหมอกเบื้องหน้าเป็นพุ่มไม้รกร้างซึ่งจะหายไปเพียงเขาออกแรงตัดทำลาย
ไม่นาน หมอกสีขาวก็จางหายไป
แทนที่ด้วยเสียงพูดที่ดังขึ้นมา
....
+++++++++++
“งั้นเหรอ…..ดูเหมือนพวกเขาล่ะสินะ”
เขามองนัยน์ตาสีเขียวอมเทาที่หรุบมองต่ำลงตรงหน้า เสียงของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปจากน้ำเสียงร่าเริงจนน่ารำคาญที่ทำมาตลอด….นิดหน่อย เลห์มเพียงแต่มองดู ไม่มีคำพูดใดออกจากปาก
ไม่ใช่ธุระของเขาที่ต้องใส่ใจเด็กกวนประสาทที่ไม่รู้จัก
แค่ภาพคนตรงหน้าทำให้เขาคิดถึงใครอีกคนนึง
แจ๊คกลับมาพูดเรื่อยเปื่อยเป็นตัวเองในเวลาไม่นาน เขาฟังแบบปล่อยให้มันลอยผ่านหูไป จากนั้นเมื่อดูจะถึงเวลาที่สมควรเด็กนั่นก็ส่งของหนึ่งมาให้ ขู่เสียดิบดีว่าห้ามเปิดก่อนจะออกจากที่แห่งนี้ไป
เลห์มตอบสนองมันด้วยการนิ่งเงียบ ก่อนทุกอย่างจะจบลง และเขาลืมตาขึ้นจริงๆในโลกอีกแห่งหนึ่ง
.
...
.....
...........
‘หือม์…...คิดถึงผมด้วยเหรอ…..เป็นคนดีเหมือนเคยเลยนะครับ’
‘ผมเองก็รักเธอนะ แต่ให้คิดถึงกันขนาดนั้น สำหรับเธอแล้วออกจะเสี่ยงไปสักหน่อย’
‘ถ้ายังไงล่ะก็….ความคิดพวกนี้ ผมขอลบมันไปก็แล้วกัน’
‘หลับฝันดีนะครับ….เลห์ม…..น้องชายที่น่ารักของผม’
It's only a mission in dream. which he cannot remember it, totally.
[End of DCS mission]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น