เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม
---------------------------------------------------------------
From Sub-event 03 :Devil take the Hindmost
Devine, the warrior of the north
---------------------------------------------------------------
A bag of corn seed
เสียงกุกกักดังมาจากประตูไม้ลั่นดาล เป็นสัญญาณว่าในไม่ช้ามันจะถูกเปิดออก และใครสักคนกำลังจะเดินเข้ามา
สำหรับพวกข้าแล้วมันเป็นเรื่องดี
ข้าขยับตัวเพียงเล็กน้อยอยู่ในที่เดิมของตนห่างจากประตูกรงเยียบเย็น มองร่างของเพื่อนที่กระเหี้ยนกระหือรือมากกว่ารีบเบียดเสียดกันตรงไปยังพื้นที่ด้านหน้า ตัวของพวกนั้นไม่เล็กจึงบังข้าเสียเกือบมิด ยังดีที่พอขยับหัวนิดหน่อยก็ยังพอจะมีช่องลอดให้มองเห็นบานไม้สีน้ำตาลซึ่งเป็นทางเข้าเดียวของพวกนั้นได้บ้าง
ประตูเปิดออกแล้ว
วันนี้เขามาแค่คนเดียว
ร่างในชุดคลุมสาวเท้าเป็นจังหวะเนิบช้ามั่นคงแบบที่ทำเป็นประจำ พวกด้านหน้าทำทีจะถอยกลับมา แต่กลับส่งเสียงจอแจและนิ่งอยู่ที่เดิมเมื่อเห็นว่าเขาตรงเข้ามาหาพร้อมกับถุงผ้าเก่าๆสีทึบทึม
พวกข้าล้วนรู้ดีว่าสิ่งนั้นมีความหมายเช่นไร
เขานั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆกับกรงขังของพวกข้า หลังจากใช้เวลากับการจัดท่าทางอยู่ครู่หนึ่งมือก็แกะปากถุงออกและล้วงเข้าไปด้านใน ก่อนมันจะกลับออกมายังโลกภายนอกพร้อมกับเมล็ดธัญพืชสีขาวเหลืองซีดๆเต็มกำมือ
เขาหย่อนมันลงที่ถาดว่างเปล่าใกล้ๆ และเลื่อนเข้ามาให้ในกรง
“กินเสีย นี่เป็นชุดสุดท้ายที่เจ้านั่นเก็บไว้แล้ว หลังจากนี้คงต้องปล่อยพวกเจ้าให้เป็นหน้าที่ของคนดูแล”
เสียงดังขึ้นวุ่นวายจากเบื้องหน้าข้า เมื่อมีอาหารอยู่ใกล้เช่นนั้น พวกเขาคงไม่ได้ยินหรือไม่ใส่ใจกับคำพูดของผู้อยู่นอกกรง แต่ข้ายังสดับฟัง..พลางเคลื่อนตัวจากที่ของตนมาใกล้ถาดอาหารอีกถาดที่ยังไม่ได้ถูกเติมเต็ม
“พวกเจ้าจะเหงาบ้างรึเปล่า ที่เจ้าหนุ่มนั่นไม่อาจมาได้อีกต่อไปแล้ว หรือแค่เสียดายที่จะไม่ได้กินข้าวโพดดีๆ?”
เขามองตรงเข้ามาภายในกรงขัง สบตากับข้า ร่างสีดำสะท้อนในนัยน์ตาอันเริ่มฟ้าฟางของเขาเป็นเงาขมุกขมัวเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน
‘กา’
ข้าตอบเขาด้วยภาษาเดียวที่ข้ามี
“นั่นสินะ…. นั่นสิ…..”
เขาพึมพำกับตนเอง สะบัดหัวสีเทามอซอไปมา แน่นอนว่าเขาไม่เข้าใจอะไร ข้าขยับจัดปีกเล็กน้อยก่อนก้มลงกินอาหารที่เขาจัดไว้ให้ ข้าสนใจกับธุระของตนเพราะมีท้องหิวโหยที่จำเป็นต้องดูแล และเลือกที่จะทอดทิ้งเสียงเขาซึ่งดูเหมือนจะเอ่ยอะไรอีกมากมายหลายคำ
มันไม่สลักสำคัญอะไร มนุษย์สามารถตอบคำถามของตนได้เองด้วยคำที่พวกเขาอยากได้ยิน
เขานั่งมองพวกข้าอยู่เนิ่นนาน เติมจานเก่าๆให้พูนด้วยเมล็ดข้าวโพดชั้นดีที่ก่อนหน้านั้นเราจะได้กินกันอาทิตย์ละครั้งก่อนอะไรบางอย่างจะเปลี่ยนไป ถุงนั้นฟีบลง สุดท้ายก็ห่อเหี่ยวแห้งลงเหมือนกองผ้าที่ถูกทิ้งบนพื้น เพื่อนของข้ามองมันสลับกับจานที่วางเปล่า จากนั้นจุงพากันถอยกลับไปยังมุมของพวกตน
ข้าคาบเมล็ดข้าวโพดอันสุดท้ายกลืนลงคอเรียบร้อยจึงเงยหน้ามองเขา มองใบหน้าเหี่ยวย่นที่เรียบเฉยอิดโรย เขาผู้มีสีเทาเป็นสัญลักษณ์และมักมาที่แห่งนี้พร้อมหน้าที่ ในขณะที่อีกใบหน้าหนึ่งมักมาพร้อมอาหารและความเงียบงัน
มนุษย์ที่มีสีดำ
“หมดเสียแล้ว ต่อไปพวกเจ้าคงต้องชินกับอาหารธรรมดากระมัง” เขาส่งเสียงในลำคอ ก่อนขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เขาเอียงเซเล็กน้อยด้วยไม่มีผู้ใดคอยช่วยพยุง แต่สุดท้ายก็ยังยืนได้ด้วยสองขาตนเอง จากนั้นจึงลากร่างสีเทาออกไปทางเดียวกับขามา
ประตูเปิดออก ปิดลงและลั่นดาล
ข้ากระพือปีกพาร่างลอยกลับไปยังที่ของตน พลางครุ่นคิดถึงคำพูดของมนุษย์สีเทา
ดูเหมือนพวกข้าจะไม่มีโอกาสได้กินข้าวโพดชั้นดีเสียแล้ว
เป็นเรื่องแย่เสียจริง
End of Sub-event 3
------------------------------------------------------------------------
- เรื่องก่อนหน้านี้ให้ว่างก่อนจะเขียน.....
- คนอ่านรู้เรื่องไหมนะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ
- ทำไมทุกครั้งที่เขียนดีไวน์มันต้องเป็นธีมกากะเมสเตอร์?
- มันทันด้วยอ่ะ ; w ;
- ทำไมตัวละครตัวนี้สมควรมีชีวิตต่อ : เพราะมันเป็นถุงข้าวโพดของเหล่ากาบนหอกาวินเทอร์เฟลค่ะ.....
- ที่จริง......เพราะมันตายไปแล้ว และมีแต่คนตายแล้วเท่านั้นที่สมควรมีชีวิตต่อไป
- ขอบคุณทุกคนที่อยู่มาด้วยกันนะคะ
ป.ล คำตอบนั้นมีช่องว่างระหว่างบรรทัด
ตรวจกิจกรรม:
ตอบลบตัวอักษรทั้งหมด 2,872 ตัว
รวมทั้งหมด 2872/7 = 410.29
ผลตอบแทนที่ได้รับ: Money 410