หน้าเว็บ

วันอังคารที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

[EGot][Devine] EP1 : sub-event 3 : a bag of corn seed

เอนทรี่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม



---------------------------------------------------------------

From Sub-event 03 :Devil take the Hindmost



Devine, the warrior of the north

---------------------------------------------------------------






A bag of corn seed











เสียงกุกกักดังมาจากประตูไม้ลั่นดาล  เป็นสัญญาณว่าในไม่ช้ามันจะถูกเปิดออก  และใครสักคนกำลังจะเดินเข้ามา




สำหรับพวกข้าแล้วมันเป็นเรื่องดี




ข้าขยับตัวเพียงเล็กน้อยอยู่ในที่เดิมของตนห่างจากประตูกรงเยียบเย็น  มองร่างของเพื่อนที่กระเหี้ยนกระหือรือมากกว่ารีบเบียดเสียดกันตรงไปยังพื้นที่ด้านหน้า  ตัวของพวกนั้นไม่เล็กจึงบังข้าเสียเกือบมิด  ยังดีที่พอขยับหัวนิดหน่อยก็ยังพอจะมีช่องลอดให้มองเห็นบานไม้สีน้ำตาลซึ่งเป็นทางเข้าเดียวของพวกนั้นได้บ้าง




ประตูเปิดออกแล้ว




วันนี้เขามาแค่คนเดียว




ร่างในชุดคลุมสาวเท้าเป็นจังหวะเนิบช้ามั่นคงแบบที่ทำเป็นประจำ   พวกด้านหน้าทำทีจะถอยกลับมา  แต่กลับส่งเสียงจอแจและนิ่งอยู่ที่เดิมเมื่อเห็นว่าเขาตรงเข้ามาหาพร้อมกับถุงผ้าเก่าๆสีทึบทึม  




พวกข้าล้วนรู้ดีว่าสิ่งนั้นมีความหมายเช่นไร




เขานั่งลงที่เก้าอี้ใกล้ๆกับกรงขังของพวกข้า หลังจากใช้เวลากับการจัดท่าทางอยู่ครู่หนึ่งมือก็แกะปากถุงออกและล้วงเข้าไปด้านใน   ก่อนมันจะกลับออกมายังโลกภายนอกพร้อมกับเมล็ดธัญพืชสีขาวเหลืองซีดๆเต็มกำมือ     




เขาหย่อนมันลงที่ถาดว่างเปล่าใกล้ๆ  และเลื่อนเข้ามาให้ในกรง




“กินเสีย  นี่เป็นชุดสุดท้ายที่เจ้านั่นเก็บไว้แล้ว  หลังจากนี้คงต้องปล่อยพวกเจ้าให้เป็นหน้าที่ของคนดูแล”




เสียงดังขึ้นวุ่นวายจากเบื้องหน้าข้า  เมื่อมีอาหารอยู่ใกล้เช่นนั้น พวกเขาคงไม่ได้ยินหรือไม่ใส่ใจกับคำพูดของผู้อยู่นอกกรง  แต่ข้ายังสดับฟัง..พลางเคลื่อนตัวจากที่ของตนมาใกล้ถาดอาหารอีกถาดที่ยังไม่ได้ถูกเติมเต็ม




“พวกเจ้าจะเหงาบ้างรึเปล่า ที่เจ้าหนุ่มนั่นไม่อาจมาได้อีกต่อไปแล้ว  หรือแค่เสียดายที่จะไม่ได้กินข้าวโพดดีๆ?”




เขามองตรงเข้ามาภายในกรงขัง  สบตากับข้า  ร่างสีดำสะท้อนในนัยน์ตาอันเริ่มฟ้าฟางของเขาเป็นเงาขมุกขมัวเหมือนท้องฟ้ายามค่ำคืน




‘กา’




ข้าตอบเขาด้วยภาษาเดียวที่ข้ามี  




“นั่นสินะ….  นั่นสิ…..”  




เขาพึมพำกับตนเอง  สะบัดหัวสีเทามอซอไปมา  แน่นอนว่าเขาไม่เข้าใจอะไร  ข้าขยับจัดปีกเล็กน้อยก่อนก้มลงกินอาหารที่เขาจัดไว้ให้   ข้าสนใจกับธุระของตนเพราะมีท้องหิวโหยที่จำเป็นต้องดูแล  และเลือกที่จะทอดทิ้งเสียงเขาซึ่งดูเหมือนจะเอ่ยอะไรอีกมากมายหลายคำ  




มันไม่สลักสำคัญอะไร  มนุษย์สามารถตอบคำถามของตนได้เองด้วยคำที่พวกเขาอยากได้ยิน   




เขานั่งมองพวกข้าอยู่เนิ่นนาน  เติมจานเก่าๆให้พูนด้วยเมล็ดข้าวโพดชั้นดีที่ก่อนหน้านั้นเราจะได้กินกันอาทิตย์ละครั้งก่อนอะไรบางอย่างจะเปลี่ยนไป  ถุงนั้นฟีบลง สุดท้ายก็ห่อเหี่ยวแห้งลงเหมือนกองผ้าที่ถูกทิ้งบนพื้น   เพื่อนของข้ามองมันสลับกับจานที่วางเปล่า  จากนั้นจุงพากันถอยกลับไปยังมุมของพวกตน




ข้าคาบเมล็ดข้าวโพดอันสุดท้ายกลืนลงคอเรียบร้อยจึงเงยหน้ามองเขา  มองใบหน้าเหี่ยวย่นที่เรียบเฉยอิดโรย  เขาผู้มีสีเทาเป็นสัญลักษณ์และมักมาที่แห่งนี้พร้อมหน้าที่   ในขณะที่อีกใบหน้าหนึ่งมักมาพร้อมอาหารและความเงียบงัน




มนุษย์ที่มีสีดำ




“หมดเสียแล้ว  ต่อไปพวกเจ้าคงต้องชินกับอาหารธรรมดากระมัง”  เขาส่งเสียงในลำคอ  ก่อนขยับตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้  เขาเอียงเซเล็กน้อยด้วยไม่มีผู้ใดคอยช่วยพยุง  แต่สุดท้ายก็ยังยืนได้ด้วยสองขาตนเอง  จากนั้นจึงลากร่างสีเทาออกไปทางเดียวกับขามา




ประตูเปิดออก  ปิดลงและลั่นดาล




ข้ากระพือปีกพาร่างลอยกลับไปยังที่ของตน  พลางครุ่นคิดถึงคำพูดของมนุษย์สีเทา



















ดูเหมือนพวกข้าจะไม่มีโอกาสได้กินข้าวโพดชั้นดีเสียแล้ว




เป็นเรื่องแย่เสียจริง







End of Sub-event 3
------------------------------------------------------------------------


- เรื่องก่อนหน้านี้ให้ว่างก่อนจะเขียน.....

- คนอ่านรู้เรื่องไหมนะ ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ

- ทำไมทุกครั้งที่เขียนดีไวน์มันต้องเป็นธีมกากะเมสเตอร์?

- มันทันด้วยอ่ะ ; w ; 

- ทำไมตัวละครตัวนี้สมควรมีชีวิตต่อ : เพราะมันเป็นถุงข้าวโพดของเหล่ากาบนหอกาวินเทอร์เฟลค่ะ.....

- ที่จริง......เพราะมันตายไปแล้ว  และมีแต่คนตายแล้วเท่านั้นที่สมควรมีชีวิตต่อไป 

- ขอบคุณทุกคนที่อยู่มาด้วยกันนะคะ


















ป.ล คำตอบนั้นมีช่องว่างระหว่างบรรทัด



1 ความคิดเห็น:

  1. ตรวจกิจกรรม:
    ตัวอักษรทั้งหมด 2,872 ตัว

    รวมทั้งหมด 2872/7 = 410.29
    ผลตอบแทนที่ได้รับ: Money 410

    ตอบลบ